วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

"เอลิซาเบธน้อย" พุ่งสู่พระตรีเอกภาพ


บุญราศีเอลิซาเบธ แห่ง พระตรีเอกภาพ
Bl. Élisabeth of the Trinity
ฉลองในวันที่ : 9 พฤศจิกายน

18 กรกฎาคม ค..1880 ช่างเป็นวันที่แสนดีอะไรอย่างนี้นะ สำหรับครอบครัวเล็กๆในค่ายอาวอร (Avord) ของกับตันโจเซฟ กับ นางมารี โรลอง กาเทส (Captain Joseph and Marie Rolland Catez) เพราะวันนี้พวกเขาได้ต้อนรับบุตรหัวปีเพศหญิงคนแรกของพวกเขา หลังจากที่ทั้งสองต้องทนกังวลจากที่แพทย์ได้กล่าวว่าบุตรีคนแรกของพวกเขาอาจจะไม่รอด

สี่วันหลังจากนั้น ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค..1880 หนูน้อยได้รับศีลล้างบาปด้วยชุดสีขาวภายในอ้อมแขนมานดาของท่านในวัดประจำค่ายในนามว่า มารี เอลิซาเบธ โฌเซฟินโดยมีคุณตาเรย์มอง โรลอง(Raymond Rolland)และคุณยายแอน มาร์เกอริต โฌเซฟิน โรลอง (Anne Marguerite Joséphine Rolland) เป็นพ่อแม่ทูนหัว



เพียงสี่เดือนหลังจากที่ท่านเกิด ในปี ค..1881 ครอบครัวของท่านก็ได้ย้ายมาอยู่ที่โอซอง (Auxonne) และ ดีฌง (Dijon) ในปี ค..1882 ที่นั่นมารดาของท่านแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย เพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับท่านตลอด

วัยเด็กท่านนั้นเป็นเด็กที่อารมณ์โกธรที่เหลือร้ายประมาณว่าทุกคนก่อนหน้าท่านต้องหลีกทางให้ท่าน แต่ข้อเสียนี้ก็เริ่มได้รับเครื่องหมายแห่งการเปลี่ยนแปลงในปี ค..1887 เริ่มจากการจากไปของคุณตาในเดือนมกราคม ขณะอาศัยอยู่กับบุตรสาวที่รักของเขา มิทันใดที่เมฆหมอกแห่งโศกเศร้าจะจางหายไป บิดาของท่านก็มาด่วนจากไปอีกคนด้วยอาการหัวใจวายในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ทิ้งไว้แต่เพียงมาดามกาเทส ท่านและน้องมาร์เกอริตเท่านั้น



ดังนั้นมานดาของท่านจึงหอบหิ้วท่านและน้องสาวไปอยู่อพาร์ทเมนท์ย่านชานเมืองของดีฌง และบ้านใหม่หลังนี้เองที่ทำให้ท่านค้นพบคาร์แมล ผ่านบานหน้าต่างในห้องของท่านเอง และถึงแม้ว่าบิดาของท่านจะจากไปแล้ว ท่านก็ยังคงมีอารมณ์ที่มีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้น จนกระทั้งท่านได้เรียนรู้จักศีลอภัยบาป มันนำมาสู่การต่อสู้อย่างเห็นได้ชัดกับข้อเสียนี้ ท่านสัญญาต่อมารดาของท่านว่าท่านจะทำตัวให้น่ารัก อดทนและเชื่อฟัง

ที่สุดความพยายามของท่านก็บรรลุผล กับการเอาชนะอารมณ์ที่แสนร้ายของท่าน เมื่อท่านอายุได้ 11 ปี ท่านก็ได้รับพระวรกายของพระคริสต์เป็นครั้งแรก ในวันที่ 19 เมษายน ค..1891 น้ำตาแห่งความปิติหลั่งรินแก้มของท่านหลังจากรับพระองค์ ดิฉันไม่หิวอีกต่อไปแล้วละ พระเยซูเจ้าทรงเลี้ยงดูดิฉัน  คือคำกล่าวของท่านหลังจากออกจากวัดกับมารี หลุยส์เพื่อนของท่าน และหลังจากนั้นมาท่านก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น



ในโอกาสครบรอบ 7 ปีแห่งการรับพระวรกายกวีหนึ่งบทก็ได้ถูกท่านรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้ว่า
ครั้นพระเยซูเจ้าทรงกระทำตัวข้าให้เป็นที่ประทับของพระองค์
ครั้งพระเจ้าทรงครองดวงใจข้า
สันติสุขก็เกิดขึ้นตั้งแต่เวลานั้น
ตั้งแต่ครั้งการรับศีลน่าพิศวง(mysterious colloquy)
ที่ศักดิ์สิทธิ์และโอชาการพบปะ
ข้าได้รับแรงบาดาลใจว่า มิมีอื่นใด แต่จะมอบถวายชีวิตของข้าเพื่อที่จะคืนสู่ความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่เป็นที่รักแห่งมหาสนิทศีล ผู้พักผ่อนในดวงใจที่แสนอ่อนแอของข้า
อันเออล้นไปด้วยความพอพระทัยของพระองค์

หนูรู้ไหมว่าเอลิซาเบธแปลว่าบ้านของพระเจ้า คุณแม่มารีแห่งพระเยซูเจ้าพดขึ้นเมื่อได้รู้ชื่อของท่าน ในระหว่างการสนทนาผ่านลูกกรงของอารามคาร์เมไลท์ของดีฌง ที่ท่านกับมารดาไปในบ่ายวันเดียวกันกับที่ท่านรับศีลมหาสนิท และหลังจากนั้นสองสามวันต่อมาคุณแม่ก็ได้ส่งบัตรศักดิ์ที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือด้านหลังว่า ชื่ออันมีพระพรของหนูแฝงไปด้วยรหัสธรรม จงพบเจอความสำเร็จในวันดีๆนี้ เด็กน้อย ดวงใจของหนูคือบ้านของพระเจ้าบนโลก ของพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก



พรสวรรค์พิเศษ ท่านมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี โดยเฉพาะเปียโนที่ท่านทั้งเรียนที่โรงเรียนและที่บ้านเป็นเวลาหลายชั่วโมง ท่านสามารถเรียนมันได้อย่างรวดเร็วและได้รับรางวัลจากนายดีทริช ท่านสอบได้อย่างดีเลิศในโรงเรียนดนตรี และได้รับรางวัลในชั้นเรียนวิชาทฤษฎีดนตรีภาคปฏิบัติของนายพลาเดล(Pradel) ในปี ค..1893 ท่านยังมีโอกาสได้ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนดนตรีที่ดีฌงตั้งแต่ปี ค..1888 –..1895 อีกด้วย

กระแสเรียก วันหนึ่งที่อายุ 14 หลังจากการรับศีลมหาสนิท ท่านก็สัมผัสได้ถึงกระแสเรียกการเป็นคาร์เมไลท์ของท่าน แต่เมื่อนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับมานดาของท่าน คำตอบที่ได้ก็คือไม่ เพราะมานดาของท่านไม่เชื่อว่าท่านมีกระแสเรียกในด้านนี้ จึงพยายามผลักดันท่านให้เข้าชีวิตสังคม ดังนั้นระหว่างที่รอท่านจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม ท่านได้รับเชิญไปรับประทานอาหารค่ำและจบลงด้วยการขอให้ท่านเล่นเปียโนให้ฟัง



เวลาเดียวกันท่านก็ได้มีส่วนร่วมในการสอนคำสอนในเขตวัด เป็นนักคณะนักร้องประสานเสียง นำคนหนุ่มสาวเข้าวัดในเดือนแม่พระ คอยเตรียมตัวเด็กๆที่จะรับศีลมหาสนิทครั้งแรก และในฤดูร้อนท่านก็จะมีวันที่จะไปดูแลลูกๆของลูกจ้างในโรงงานยาสูบท้องถิ่น  

บันทึกของท่านถูกเขียนขึ้นเมื่อท่านมีอายุ 18 ปี มันแสดงให้เห็นถึงรสนิยมเรื่องภูเขาของท่านเพราะท่านมักใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับการเที่ยวภูเขาหรือทะเล  ต่อมาในระหว่างการพักผ่อนในเดือนมกราคม ปี ค..1899 ท่านก็ได้อ่านหนังสือหนทางสู่ความครบครันของนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลลาและค้นพบอะไรมากมายตามคำพูดของนักบุญเทเรซา



ที่สุดหลังจากเวลารอคอยอันยาวนาน มารดาท่านก็ยอมให้ท่านเข้าอารามซึ่งนับเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดยิ่งของเธอ แต่อาศัยคำแนะนำของเพื่อนที่ดี และสภาพของท่านที่คอยแต่เฝ้ารอเวลานั้นเวลาเป็นชีลับอย่างไม่สิ้นสุด กำหนดการเข้าอารามของท่านถูกจัดในวันที่  2 สิงหาคม ค..1901  ระหว่างรอท่านก็ดำเนินชีวิตตามปกติจนถึงคืนวันที่ 1 สิงหา ท่านก็สวดภาวนาในเวลากลางคืนเช่นปกติ ด้วยความปรารถนาพร้อมสุดที่รักของท่านในความสันโดษแห่งกางเขน

แต่กลับกันกับมาดามกาเตส เธอกับไม่สามรถหลับตาลงได้ ที่สุดเธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นมาคุกเข่าที่ข้างเตียงของบุตรสาวด้วยน้ำตา พลางตัดพ้อถามธิดาน้อยว่า ทำไมลูกถึงทิ้งแม่ไปละ ฟังความดังนั้นธิดาน้อยก็ตอบมารดาผู้โศกาว่า อ้า คุณแม่ที่รักของหนู หนูจะสามารถต้านทานพระสุรเสียงของพระเจ้าที่เรียกชื่อหนูได้อย่างไร พระองค์ทรงโอบหนูไว้ด้วยพระหัตถ์และทรงตรัสกับหนูว่าพระองค์ไม่รู้ น้อยพระทัย ถูกทอดทิ้ง แล้วหนูจะทอดทิ้งพระองค์ ได้อย่างไร …. เพื่อพระองค์หนูจำต้องสละแม้ความเศร้าโศกของหนูที่คุณแม่มอบให้ หรือ การที่คุณแม่ต้องดื่มด่ำความเจ็บปวดก็ตามที

ดิฉันไม่สามารถทำอะไรได้ ดิฉันเพียงทิ้งตัวของดิฉันลงในอ้อมพระหัตถ์ของพระองค์ เช่นเด็กเล็ก วันถัดมาท่านก็ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า ก่อนรีบจัดแจงข้าวของต่างๆแล้วไปที่รูปบิดาเพื่อขอพร ตามด้วยแม่และน้อง หลังจากนั้นจึงเดิน
ทางมาร่วมมิสซาที่วัดน้อยของอารามที่ดีฌงในเวลาแปดโมงและได้เดินเข้าอารามไปในวันนั้นหลังมิสซาจบลง
ถ้าแม่รู้ว่าหนูรักแม่มากแค่ไหน หนูคิดว่าคงไม่สามารถขอบคุณได้เพียงพอสำหรับการให้หนูได้เป็นคาร์แมลที่รักที่หนูมีความสุขมากๆ
มันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆของคุณแม่ เช่นเดียวกันกับที่หนูเป็นหนี้ความสุขของหนู คุณแม่รู้ดีว่าถ้าคุณแม่ได้กล่าวกับคำว่าได้เอลิซาเบซน้อยของคุณแม่ก็จะคงอยู่กับคุณต่อไป
จดหมายถึงมารดาหลังเข้าอาราม

โอ้ ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์ความดี ลูกหาได้สรรหาคำใดที่จะแสดงถึงความสุขของลูกได้ ทุกวันลูกก็ยิ่งซาบซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ที่นี่ ไม่มีสิ่งใดมากไปกว่าพระองค์ ผู้ทรงเป็นทุกสิ่ง เพียงพระองค์และจากพระองค์ก็เพียงพอแล้ว เราพบพระองค์ทุกที่ ไม่ว่าเวลาซักรีดถึงเวลาสวดภาวนา
จดหมายถึงน้องสาว

พิธีรับเสื้อคณะ ในครั้งแรกมีความเป็นไปได้มากที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่  27 ธันวาคม ปีเดียวกันกับที่ท่านเข้าอาราม ซึ่งตรงกับวันฉลองนักบุญยอห์น อัครสาวก เพราะเป็นวันที่ครอบครัวและพระสงฆ์ที่ท่านสนิทสามารถมาได้ แต่ท้ายสุดพิธีรับชุดคณะของท่านก็ตกลงเป็นวันสมโภชแม่พระผู้ปฏิสนธินิรมล ปีเดียวกัน แทน ซึ่งนับเป็นวันที่ท่านรักด้วยเหตุผลสองข้อคือ
1.ในวันนี้พระศาสนจักรร่วมกันสมโภชรหัสธรรมแห่งการปฏิสนธินิรมล ที่ดึงดูดท่านด้วยธรรมล้ำลึกแห่งความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์อันมิได้มาจากการเป็นอิสระมลทินแต่เดิม แต่เป็นการกระทำของหัวใจอันได้รับจากพระเจ้า
ให้ลูกบริสุทธิ์ทุกวันวา
แลรักษาลูกพ้นบาปมัวหมอง
โปรดคอยเฝ้าหทัยอย่าร้างรอน
อดิศรแลมารีนิรมลเอย
8 ธันวาคม ค..1897
2.นับเป็นความบังเอิญพอดีที่ปีนั้น วันสมโภชตรงกับวันอาทิตย์พอดี อันมีข้อสัมพันธ์ถึงรหัสธรรมแห่งพระตรีเอกภาพ ด้วยพรหมจารีแท้ยิ่งได้ถวายตนฉกเช่นปังแห่งการสรรเสริญพระสิริสามพระบุคคล


หลังจากนั้นในเย็นวันพุธที่ 4 ธันวาคม ท่านก็ได้ออกมาพักผ่อนเป็นเวลาสามวัน
ดิฉันจะเตรียมตัวให้พร้อมในวันที่ดีที่สุดของการหมั้นหมายด้วยการพักผ่อนสามวัน โอ้ เธอเห็นไหม ว่าตอนนี้ดิฉันคิดว่าดิฉันไม่มีความหมายใดอีต่อไปในแผ่นดินแล้ว โปรดสวดให้คาร์แมลน้อยของเธอมากๆเพื่อให้เธอส่งมอบทุกสิ่งอย่าง และมีความชื่นชมยินดีต่อหัวใจแห่งกระแสเรียกของเธอ ดิฉันจะมอบถวายพระองค์ในวันอาทิตย์ด้วยบางสิ่งของความดี เพราะดิฉันรักพระคริสตเจ้าของดิฉันมากๆ

และเมื่อวันนั้นมาถึง เช่นมารดาทั่วไป มารดาของท่านก็ได้จัดหาช่างทำผมมาให้ท่าน ซึ่งเมื่อช่างถามถึงทรงท่านก็ตอบง่ายๆว่า ง่ายและทนที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เลยค่ะ ดังนั้นเขาจึงจัดให้และเพียงไม่นานทรงผมก็เสร็จลงเขาจึงยื่นกระจักมาให้ท่านพร้อมถามว่า มาดมัวแซลล์ คุณพอใจไหมครับ ท่านก็ตอบพร้อมดันกระจกออกไปว่า มันต้องดีแน่ๆค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจแก่เขาจนเขาเอ่ยขณะกลับกับลูกมือว่าเขาไม่เคยพบผู้หญิงแบบท่านมาก่อนและรู้สึกสะเทือนใจมากๆ นอกจากนั้นเมื่อท่านพบเพื่อนชายที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกสองเดือน ท่านก็พูดกับเขาว่า นายมีคงมีความสุขละซิ แต่เรามีมากกว่านายอีกนะ



ท่านได้รับชุดคณะเป็นนวกะอย่างสง่าในชุดสีขาวที่งดงาม และนามใหม่ว่า ซิสเตอร์เอลิซาเบธ แห่ง พระตรีเอกภาพ หลังจากนั้นท่านก็ได้ปฏิญาณตนในวันสมโภชพระคริสตเจ้าสำแดงองค์ที่ 11 มกราคม ค..1903 อันนับเป็นอีกวันของความสุขสำหรับท่าน ดิฉันได้มีวันที่สวยงามมากๆ” , “เป็นเช้าวันสมโภชพระคริสตเจ้าสำแดงองค์ที่สวยที่สุดในชีวิตของดิฉันในวันนี้ดิฉันจะได้ทำตามความปรารถนาของดิฉันและดิฉันจะกลายเป็น เจ้าสาวของพระคริสตเจ้า ในที่สุด.. ” เป็นดั่งความฝันที่กลายเป็นจริง
ในความลับลึกลงข้าฝังร่าง
ในทรงสร้าง ข้าอยู่และดับไป
รักพระองค์คือชีวาข้านี้ไซร้
ให้ข้าได้ดิ่งสู่สันติองค์เอย
บางตอนจากบทเพลงระหว่างพิธี

หลังจากนั้นท่านจึงได้รับผ้าคลุมศีรษะในวันที่  21 มกราคม ปีเดียวกัน ซึ่งนับอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาวดีฌง ที่ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลไปที่วัดของอารามคาร์แมลในเช้าวันพุธทั้งๆที่เป็นวันทำงาน ไม่ใช่เพื่อฉลองนักบุญอักแนส แต่เพื่อร่วมพิธธีรับผ้าคลุมศีรษะของท่าน ภายหลังจากมีพิธีปฏิญาณตนเป็นการภายในแล้ว ซึ่งในวันนั้นมีทั้งครอบครัว เพื่อนและผู้คนจำนวนมากที่เคยชมการแสดงของท่าน ที่พวกเขายังคงตราตรึงถึง การแสดงเปียโนของ กาเทสน้อย



ในฐานะเจ้าสาวพระคริสต์ ความตระหนักรู้และประสบการณ์เรื่องพระตรีเอกภาพผู้ทรงดำรงอยู่ในท่านนับวันก็ยิ่งเติบโต และอาศัยการสนทนากับพระคริสตเจ้าในศีลศักดิ์สิทธิ์และในพระคัมภีร์ ชีวิตฝ่ายจิตของท่านก็ยิ่งล้ำลึกขึ้นไปเรื่อยๆ ท่านตักตวงอาหารบำรุงชีวิตจิตจากคำสอนของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ของคณะ นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลลา นักบุญยอห์น แห่ง ไม้กางเขน และจากนักบุญร่วมสมัยกับท่านเอง นักบุญเทเรซา แห่ง ลิซีเออร์  แต่เหนือสิ่งอื่นใดบิดาฝ่ายจิตของท่านนั้นมีเพียงคนเดียวคือ นักบุญเปาโล อัครสาวก

ซึ่งผ่านนักบุญเปาโล ท่านได้ค้นพบการเรียนรู้ถึงสองสิ่งคือการสะท้อนประสบการณ์ของท่านต่อความรักของพระเจ้าและช่วยให้ท่านสามารถตีความประสบการณ์เหล่านี้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นนักบุญเปาโลยังได้เผยแสดงถึง ความรักอันล้นหลามของพระคริสตเจ้า ผู้ทรงรักข้าพเจ้าและทรงมอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้า (กาลาเทีย 2:20) ต่อท่านอีกด้วย



ขอย้อนกลับไปในวัยเยาว์ ท่านได้ค้นพบกำลังที่จะเอาชนะอารมณ์ร้อนของท่านผ่านทางพระวรกายและพระโลหิตของพระเยซุคริสตเจ้าในศีลมหาสนิทครั้งแรก และในอารามท่านค้นพบคำอธิบายถึงเหตุการณ์นี้ผ่านจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโคโลสี 2:20 ที่เขียนว่า พระคริสตเจ้าโปรดให้ทุกสิ่งมีสันติ ด้วยพระโลหิตที่ทรงหลั่งบนไม้กางเขนของพระองค์  ท่านเขียนว่า การทำสันติในสวรรค์น้อยๆของดิฉัน ก็เพื่อว่ามันอาจจะเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างแท้จริงขอองพระตรีเอกภาพ  นี้นับเป็นประสบการณ์หนึ่งที่ท่านค้นพบคำอธิบายผ่านจดหมายของนักบุญเปาโล

ในทำนองเดียวกัน อีกครั้งที่ท่านค้นพบคำยืนยันของนักบุญเปาโลถึงประสบการณ์ของท่านถึงเรื่องที่ว่าผ่านพระคริสตเจ้า เราสามารถเข้าเฝ้าพระบิดา (เทียบเอเฟซัส 2:18) เช่นนั้นท่านจึงเขียนเรื่องนี้ในบทกวีที่ท่านประพันธ์ขึ้นในวันพระคริสตสมภพ ปี ค..1901 ว่า
ทรงมาเผยข้อเชื่อน่าฉงน
มอบชาวชนความลับพระบิดา
นำสิริสู่สิริโรจนา
จนใจกลางตรีเอกานุภาพ
ท่านได้รับการเผยแสดงจากพระเจ้าว่า พระคริสตเจ้าทรงเป็นเสด็จมาเพื่อเผยแสดงถึงความรักของพระบิดาต่อพวกเราทั้งหลาย พร้อมทั้งนำเราไปส่วนร่วมในชีวิตศักดิ์สิทธิ์แห่งความรักของพระตรีเอกภาพ ท้ายสุดผ่านจดหมายนักบุญเปาโล ท่านได้ค้นพบทางมากมายสู่ศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ของกระแสเรียกการเป็นคริสตชนที่มีส่วนในชีวิตตรีเอกภาพผ่านการสนิทสัมพันธ์กับพระคริสตเจ้า



การสรรเสริญแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ หรือ “Laudem Gloriae” คือ กระแสเรียกส่วนตัวที่ท่านค้นพบจากจดหมายถึงชาวเอเฟซัส คือการดำรงอยู่เพื่อสรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดา เช่นเดียวกันกับพระเยซูเจ้าพระองค์เองก็ได้ทรงสรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาเจ้าอย่างชัดเจน ท่านกล่าวว่า
ความฝันของดิฉันคือการเป็นการสรรเสริญแห่งพระสิริรุ่งโรจน์
มันอยู่ในจดหมายนักบุญเปาโลที่ดิฉันอ่าน และพระสวามีเจ้าของดิฉันเผยแสดงให้ดิฉันเข้าใจว่านี้คือกระแสเรียกจากการถูกเนรเทศที่กำลังรอคอยจะไปขับบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ไปนิรันดรในอาณาจักรนักบุญของดิฉัน
แต่จำเป็นยิ่งที่ต้องใช้ความภักดีอย่างสูง เพื่อที่จะเป็นการสรรเสริญแห่งพระสิริรุ่งโรจน์ มันจะต้องตายจากทุกสิ่งอันมิใช่พระองค์ เพื่อที่จะไม่สั่นสะเทือนภายใต้การสัมผัสของพระองค์
จากจดหมายถึงเพื่อนคนหนึ่งของท่าน ในสิ้นเดือนธันวาคม ค..1905
กระแสเรียกนี้ยังไม่เพียงแต่การเป็นการสรรเสริญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการน้อมรับความทุกข์ทรมานในการไถ่กู้ร่วม
กับพระคริสตเจ้า ดั่งคำของนักบุญเปาโลที่ว่า ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายข้าพเจ้าเพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร(โคโลสี 1:24)

ท่านตระหนักว่ามนุษย์ทุกคนล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า  เพื่อเลียนแบบพระองค์ แม้ในขณะทรงรับทรมาน และเพื่อมีส่วนร่วมในความรักสัมพันธ์ที่เกิดจาดพระเยซูเจ้าทรงมีส่วนกับพระบิดาและพระจิตเจ้า ท่านอธิบายถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในครั้งในหนึ่งในการรำพึงว่า
พระเจ้าทรงก้มลงมาเหนือวิญญาณนี้ด้วยความรัก
ธิดาบุญธรรมของพระองค์ ผู้เป็นเหมือนฉายาลักษณ์ของพระบุตร คนแรกที่บังเกิดขึ้นในหมู่สรรพชีวิตทั้งหลาย
ทรงรู้จักเธอดีว่าเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ตั้งไว้ ได้เรียก ผู้ชอบธรรม
และหัวใจบิดาของพระองค์ตื่นเต้นขณะทรงคิดถึงความสำเร็จบริบูรณ์
ราชกิจของพระองค์ นี้คือการเชิดชูเธอ
โดยการนำเธอเข้าไปสู่พระอาณาจักรของพระองค์
ที่นั่นมีบทเพลงสำหรับทุกเพศทุกวัยไม่รู้จักจบที่สรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์
ทุกกิจการอันดีเลิศนี้คือราชกิจของพระเจ้าแห่งความรัก พระเจ้าทรงสร้างเราขึ้นมาเพื่อนำเราไปสู่การสนทนากับพระองค์เอง พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์ความรักด้วยตัวเอง


21 พฤศจิกายน ค..1904 ตรงกับวันฉลองแม่พระถวายตนในพระวิหาร ท่านก็ได้ประพันธ์บทภาวนาต่อพระตรีเอกภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดขึ้น อันประหนึ่งเป็นการถวายตนต่อองค์ความรัก ซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนความปรารถนาของท่านที่จะร่วมเป็นหนึ่งกับพระคริสตเจ้า ตามรอยพระองค์ เพื่อเป็นที่พอพระทัยของพระบิดาเจ้าและเข้าสู่ความรักอันเป็นพลวัตและไร้ขีดจำกัดของพระตรีเอกภาพอย่างสุดซึ้ง และสรุปในตอนท้ายบทภาวนาด้วยยอมจำนนตัวของท่านเองต่อพระตรีเอกภาพว่า ขอโปรดฝังพระองค์เองลงในตัวลูก เพื่อจะลูกจะได้ฝังตัวเองไว้ในพระองค์ ไปจนกว่าลูกจะจากโลกนี้ไปสู่การเพ่งพิศความยิ่งใหญ่อันล้ำลึกไม่มีขอบเขตในแสงสว่างของพระองค์เทอญ

หลังจากนั้นในวันที่ 8 มีนาคม ปีถัดมาถึง 22 เมษายน ปีนั้น ท่านก็เริ่มอาการแรกของโรคแอดิสัน และยิ่งทรุดหนักขึ้นในช่วงต้นปี ค..1906  นักบุญยอแซฟเป็นองค์อุปถัมภ์การสิ้นใจในศีลในพร ท่านจะมาพาดิฉันไปหาพระบิดาค่ะ ท่านกล่าวในเวลาหย่อนใจในวันที่ 1 มกราคม ค..1906 แต่ก็ไม่มีใครเชื่อท่านในเวลานั้น ตรงข้ามทุกคนกับยิ้มอย่างมีความหวังให้กับท่าน



อาการท่านหนักลงเรื่อยจนป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหาร ซึ่งทำให้ท่านต้องทรมานจากอาการอ่อนเพลีย และอาการไม่สามารถย่อยอาหารได้ ท่านต้องทนปวดท้องอย่างรุนแรงและอาการกระหาย ท่านเขียนว่าท่ารู้สึกเหมือนมีแมลงตัวเล็กๆกำลังกัดกินอวัยวะภายในของท่านและบอกว่าสิ่งแรกๆที่ท่านจะทำในสวรรค์คือการดื่มน้ำ แต่จะทรมานอย่างไรท่านก็ยังคงอดทน อาจหาญ และเปี่ยมไปด้วยความสุข ขณะเดียวกันก็เจริญชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระคริสตเจ้าเสมอ

ท่านเล็งเห็นว่าความทุกข์ยากของท่านเป็นหนทางอันสอดคล้องกับพระเยซูเจ้า เป็นเช่นหนทางของการร่วมเป็นหนึ่งเดียวในความทุกข์ทรมานเพื่อการไถ่กู้ของเจ้าบ่าวของท่านเพื่อความดีของพระศาสนจักร ท่านจึงมองเห็นมันเป็นดั่งของขวัญ ท่านอธิบายกับมารดาผ่านจดหมายที่ถูกเขียนขึ้นจากเตียงว่า
ข้าพเจ้ายินดี นักบุญเปาโลกล่าว ที่ได้รับความทุกข์ทรมานในเนื้อหนังเพื่อเสริมสิ่งที่ขาดหายไปจากความทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าเพื่อประโยชน์ของพระกายของพระศาสนจักรของพระองค์ โอ้ วิธีที่ดวงใจของคุณแม่ควรจะโลดเต้นสำหรับความสุขของพระเจ้าในยามคิดถึงการที่พระจอมฟ้าทรงถ่อมพระอง์ลงมาเลือกสรรธิดาน้อยของคุณแม่ ผลิตผลจากครรภ์ของคุณแม่เอง ให้ได้มีส่วนร่วมในพันธกิจการไถ่กู้อันยิ่งใหญ่ และการที่พระองค์ทรงรับทรมานในตัวเธอของพระองค์ จะว่าอย่างว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของพระมหาทรมานของพระองค์ก็ว่าได้ เจ้าสาวอยู่ในเจ้าบ่าว และพระองค์ก็ได้ลูก พระองค์ปรารถนาให้ลูกมีสภาพมนุษย์อย่างอื่นเพื่อให้พระองค์จะสามารถบรรเทาความทรมานเพื่อพระสิริของพระบิดาของพระองค์ เพื่อช่วยเหลือความต้องการของพระศาสนจักรของพระองค์ ซึ่งด้วยความคิดเป็นผลดีอย่างมากมายต่อลูก



นักบุญเทเรซา แห่ง ลีซีเออร์ ผู้มีชีวิตร่วมสมัยกับท่านสัญญาว่าจะทำความดีจากในสวรรค์ เช่นเดียวกันมีคนถามท่านว่าท่านจะทำเช่นนั้นไหม และคำตอบของท่านคือไม่ แต่ตรงข้ามท่านจะพุ่งไป เช่นจรวด ลึกลงไป ลงไปในก้นบึ่งของพระตรีเอกภาพ แต่ท่านไม่รู้เลยว่าท่านนี้จะได้ฝึกพันธกิจของพระศาสนจักรจากในสวรรค์ จากเตียงผู้ป่วยท่านเขียนจดหมายถึงเพื่อนคาร์แมลว่า  ดิฉันคิดว่าในสวรรค์พันธกิจของดิฉันก็คือการดึงบรรดาวิญญาณทั้งหลายผ่านการช่วยพวกเขาให้ออกจากตัวเองในการยึดพระเจ้าผ่านความเรียบง่ายที่เต็มเปี่ยมและความรักในทุกอิริยาบถ และให้พวกเขาได้อยู่ในความเงียบภายในอันจะช่วยให้พระเจ้าทรงตรัสด้วยพระองค์เองต่อพวกเขาและเปลี่ยนพวกเขาเป็นตัวพระองค์เอง

ดิฉันกำลังจะไปสู่องค์ความสว่าง ความรัก และชีวิต ท่านกล่าวลีอันมีชื่อเสียงของท่านและเป็นวลีสุดท้าย ก่อนท่านจะพุ่งพยานวิญญาณของท่านไปสู่ก้นบึ่งของพระตรีเอกภาพอย่างสงบในเวลาเช้าของวันที่ 9 พฤศจิกายน ค..1906 ด้วยอายุรวม 26 ปีจากโรคแอดดิสัน หลังจากนั้นอีก 78 ปีมรณกรรมของท่าน ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค..1984 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ก็ทรงบันทึกนามท่านในสารบบบุญราศี



ในโอวาทพิธีสถาปนา สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ทรงได้ยกท่านเป็น ผู้นำชีวิตซ่อนอยู่กับพระคริสตเจ้าในพระเจ้า”(โคโลสี 3:3) และ พยานอันสุกไสวต่อความสุขของการหยั่งรากและตั้งมั่นอยู่บนความเชื่อ”(เอเฟซัส 3:7) ในเวลานี้เรากล่าวได้เลยว่าท่านเป็นพยานถึงผลจากการสำแดงพระองค์ของพระเจ้าภายในวิญญาณของมนุษย์ ท่านได้ป่าวประกาศแก่พวกเราด้วยวาจาของนักบุญเปาโลถึงศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ของกระแสเรียกคริสตชน อันคือ การเจริญรอยตามพระคริสตเจ้า ไปจนถึงการถูกตรึงกางเขน การกลับคืนพระชนม์ชีพ และการถวายตัวต่อศีลมหาสนิท รวมทั้งการกลายเป็น วัดฝ่ายจิต ให้ทุกคนได้สรรเสริญพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาเจ้า

ท่านยังเตือนเราว่าพระตรีเอกภาพนั้นคือ บ้านของเรา พระองค์ทรงสร้างเราเพื่อให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า เจริญชีวิตในฐานะบุตรและธิดาบุญธรรมของพระองค์ และอาศัยอยู่ในความรักของพระองค์ ซึ่งยังเหลือเฟือ แม้นในครั้งต่อๆไป ต่อไปนี้จะเป็นคำพูดจากจดหมายของท่านในโอกาสต่างๆ
ดิฉันจะให้ความลับของดิฉันแก่คุณ คือ จงคิดถึงพระเจ้าผู้ทรงดำรงในคุณ พระผู้ทรงเป็นวัดของคุณ นักบุญเปาโลกล่าวถึงทางนี้ และเราก็สามารถเชื่อมันได้
จดหมายถึงเพื่อน
ขอให้เรามีชีวิตอยู่กับพระเจ้าเช่นเดียวกับเพื่อน ขอให้เราทำความเชื่อให้มีชีวิตเพื่อคงอยู่ในการสนทนากับพระองค์ผ่านทุกๆสิ่ง นั่นแหละคือวิธีของบรรดานักบุญ เราพกสวรรค์ของเราอยู่ภายในเราเอง พระเจ้าทรงมอบพระองค์เองแด่เราในความเชื่อและความล้ำลึก
มันดูเหมือนว่าดิฉันได้พบสวรรค์บนโลกใบนี้แล้ว ตั้งแต่ที่สวรรค์คือพระเจ้าและพระเจ้าก็ทรงสถิตในวิญญาณของดิฉัน วันที่ดิฉันเข้าใจมัน ทุกอย่างก็กลายเป็นชัดแจ้งแก่ดิฉัน ดิฉันต้องการบอกความลับนี้ให้คนที่ดิฉันรักเพื่อพวกเขาเอง ผ่านทุกสิ่ง ขอยึดมั่นแต่พระองค์
พระเจ้าทรงรักเธอในวันนี้
ดั่งพระองค์ทรงรักเธอเมื่อวาน
และก็จะรักเธอในวันพรุ่งนี้ต่อไป


ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายข้าพเจ้าเพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร”(โคโลสี 1:24) ดั่งคำอธิบายชีวิตสั้นๆของท่าน ชีวิตท่านคือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ผ่านการติดตามพระคริสตเจ้าไม่ว่ายามไหน เลียนแบบพระองค์ที่จะแบกกางเขนด้วยรอยยิ้ม และเรียนรู้ที่จะสนิทกับพระองค์ยิ่งขึ้นผ่านกางเขน เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดไปจากความทรมานของพระองค์คือผู้ร่วมเดินทาง ท่านแสดงให้เราเห็นถึงทางการดำเนินชีวิตแบบเพื่อนตายกับพระองค์ ขณะที่นักบุญเทเรซาน้อยแสดงให้เราเห็นถึงการดำเนินชีวิตแบบเด็กน้อย ซึ่งมีความสัมพันธ์ในจุดเดียวกันคือการสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า ในทุกๆเวลาของชีวิต การเลียนแบบชีวิตของบุญราศีเอลิซาเบธคือการเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตเฉพาะพักตร์ของพระเจ้า ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ และเปลี่ยนเราเองให้กลายเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ขอให้เราพุ่งทะยานไปหาพระเจ้าเช่นท่านเถิด


ข้าแต่ท่านบุญราศีเอลิซาเบธ แห่ง พระตรีเอกภาพ ช่วยวิงวอนเทอญ
โอกาสฉลอง 500 ปี ชาตกาลนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลลา

ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...