วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"นักบุญ เทเรซา แห่ง แอนดีส" ลิลลี่น้อยแห่งเทือกเขาแอนดีส



นักบุญ เทเรซา แห่ง แอนดีส
St. Teresa of the Andes
ฉลองในวันที่ : 13 กรกฎาคม
องค์อุปถัมภ์ : เยาวชน

หลุมศพเล็กๆของภคินีคาร์แมลตัวน้อยๆคนหนึ่ง ที่มีทุกสิ่งเหมือนทุกคน ในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยฝูงชนมากมายที่หลั่งไหลมายังที่เพื่อวิงวอนผ่านภคินีคาร์แมลตัวน้อยที่เป็นลิลลี่ของแอนดีสนาม เทเรซา  เฉลี่ยถึงปีละ 100,000 คน ดอกไม้มากมายถูกเสียบวางไว้ในแจกันล้อมหลุมศพที่ทำด้วยหินสีน้ำตาลแต่กระนั้นมันก็หาได้บดบังรัศมีความงามของดอกลิลลี่เล็กๆที่พักกายอยู่ใต้หินไม่

ท่ามกลางครอบครัวที่ร่ำรวยของไมเคิลเฟอร์นันเดซ์ จาราเคมาดา (Miguel FernándezJaraquemada) กับ ลูเซีย โซลาร์ อาร์มสตอง (Lucía Solar Armstrong) ได้มีลิลลี่ดอกน้อยๆได้ผลิบานขึ้น ในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ.1900  ซึ่งพวกเขาเรียกขานนามดอกลิลลี่นี้ว่า ฮัวนิต้า เฟอร์นันเดซ์ โซลาร์(Juanita Fernández Solar)



 ฮัวนิต้าหรือชื่อที่คนใกล้ชิดมักเรียกท่าน เป็นชาวชิลี เกิดในซันติอาโก แคว้นซันติอาโก เมโทรโปลิแตน (Santiago Metropolitan) ประเทศชิลี ภายหลังจากที่ท่านเกิดได้สองในวันที่ 15 กรกฎาคมปีเดียวกัน ท่านก็ได้รับศีลล้างบาป  ณ  โบสถ์เซนต์แอน ใน ซันติอาโก (St. Ann's church in Santiago)  ท่านเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์แบบมากนะ พ่อของท่านเป็นคนที่พยายามอย่างต่อเนื่องสำหรับความสำเร็จทางด้านการเงินในผืนดินของเขา ส่วนแม่ของท่านเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก

ในวัยเด็กนั้นท่านมักอยู่ครอบครัวของท่านในที่ดินของตาของท่านในชาคาบูโค(Chacabuco) 40 ไมล์จากซันติอาโก ส่วนประวัติการศึกษานั้นลิลลี่น้อยได้รับการศึกษาเรื่องการอ่านที่โรงเรียนของภคินีเทเรเซียน (Theresian Sisters) ใน ซันติอาโก ในปี ค.ศ.1906 และในปีนั้นเองท่านมีความปรารถนาที่จะรับศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรก แต่ทุกคนต่างพากันคิดว่าท่านยังเด็กเกินไป  ท่านก็ได้รับการศึกษาในปี ค.ศ.1907 ในโรงเรียนพระหฤทัย(Sacred Heart school) ใน ซันติอาโกและได้เรียนรู้การภาวนาจากการสอนจากลูโช(Lucho)พี่ชายของท่าน ซึ่งท่านก็สัญญาว่าจะสวดภาวนาทุกวันและจะรักษาสัญญาของท่านไปจนกระทั้งวันตาย ยกเว้นคราวหนึ่งในวัยเด็กที่ท่านเกิดลืมมัน



นับตั้งแต่วัยเยาว์ท่านเป็นเด็กที่กระตือรือร้น เฉลียวฉลาด และมีชีวิตชีวาด้วยความปรารถนาในพระเจ้า พระสงฆ์ที่สนิทกับครอบครัวย้อนความทรงจำในช่วงนั้นว่า พ่อจำได้ว่าวันหนึ่ง เธอก็มาจูงมือพ่อ พร้อมพูดว่า คุณพ่อน้อยของหนู ไปสวรรค์กันเถอะค่ะ พ่อเลยตอบว่า เยี่ยมมาก เด็กน้อยของฉัน ไปสวรรค์กัน จากนั้นพวกเราก็เดินออกมาจากบ้านไปด้วยกันและพ่อก็ได้ถามเธอว่า นี่ฮัวนิตา พวกเราจะไปสวรรค์กันทางไหน เธอก็ตอบว่า ทางนี้ค่ะพลางชี้มือไปที่ตอนกลางของเทือกเขา พ่อเลยตอบเธอว่า เยี่ยมมาก เด็กน้อยของฉัน แต่หนูก็ควรจะรู้นะว่าเมื่อเราปีนขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว สวรรค์ก็ยังไกลมาก ไกลจริงๆ ไม่ ฮัวนิตา นี่ไม่ใช่ทางไปสวรรค์ พระเยซูเจ้าในตู้ศีล คือทางแห่งราชานั่นเอง’"

แต่แล้ววันที่ 13 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ตาของท่านก็เสียชีวิตลง ดังนั้นแม่ของท่านจึงได้รับมรดกเป็นส่วนใหญ่อสังหาริมทรัพย์ในชาคาบูโค โดยมีพ่อของท่านเป็นผู้จัดการ แต่ด้วยการจัดการที่ไม่ดีทำให้ครอบครัวของท่านประสพปัญหาด้านการเงินซึ่งนำไปสู่การขายที่ดินนั้นไปในปี ค.ศ.1917 ต่อมาในวันที่ 22 ตุลามคม ค.ศ.1909ท่านจึงได้รับศีลกำลัง


กระนั้นก็ตามแม่ท่านจะเป็นเด็กดีขนาดนี้ ท่านก็ยังมีข้อบกพร่องบางประการคือ การเป็นเด็กดื้อ ไร้เหตุผลและเห็นแก่ตัว ผู้ชอบบึนปากและเอาแต่ใจ ท่านกล่าวในภายหลังว่า บางครั้งดิฉันก็โกธรชนิดเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว แต่อาศัยความช่วยเหลือของครอบครัวและพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาป ท่านก็พยายามเอาชนะนิสัยแบบนี้ มีครั้งหนึ่งท่านออกไปข้างนอกพร้อมน้องรีเบคคา จู่ๆเรเบคกาก็ตีท่าน หน้าของท่านแดงระเรื่อด้วยความโกธร ท่านรีบคว้าตัวรีเบคคาเอาไว้ เพื่อที่จะตีเธอกลับเท่าๆกับที่เธอตีท่าน แต่ทันทีท่านก็หยุดและหันมาจูบเธอแทน แต่เรเบคกาไม่เข้าใจการกระทำของพี่สาว เธอจึงออกไปไล่ท่านว่า ไปไกลๆเลย พี่ให้จูบของยูดาสแก่น้อง ฝ่ายท่านที่มีชัยเหนือความโกธรจึงเดินออกไปอย่างง่ายดาย

เมื่อท่านมีอายุได้ 10 ปี ท่านก็ได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกและขณะที่ท่านอายุ 13 ปีท่านก็มีอันต้องเข้าโรงพยาบาลจากอาการไส้ติ่งอักเสบ มันสร้างความทุกข์ทรมานให้กับท่านเป็นอย่างยิ่ง ท่านเขียนบรรยายถึงช่วงเวลานั้นว่า หลังจากนั้นดิฉันก็จับจ้องไปบนภาพพระหฤทัยและดิฉันได้ยินสุรเสียงอันอ่อนโยนตรัสกับดิฉันว่า: ‘อะไรกัน ฮัวนิตา ! เราอยู่คนเดียวบนพระแท่นเพราะความรักของเราสำหรับเธอตลอด และเธอก็ไม่สามารถทนแบกรับอยู่คนเดียวเพียงครู่หนึ่งงั้นหรือ’ นับตั้งแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าของดิฉันตรัสกับดิฉันและดิฉันก็ใช้เวลาทั้งหมดไปกับสนทนากับพระองค์ ผู้สอนดิฉันทีละน้อยว่าดิฉันควรต้องอดทนและไม่บ่น ดิฉันจึงทำทุกอย่างกับพระเยซูและเพื่อพระเยซู


 ที่อายุ 15 ปีท่านเริ่มเขียนบันทึกของท่านและในวันที่ 8 ธันวาคมในปีนั้นท่านก็ได้ถือสัตย์สาบานความบริสุทธิ์เพื่อพระเจ้า ซึ่งท่านได้เขียนเอาไว้ว่า ขอสัญญาว่าจะไม่มีคู่สมรสอื่นใดนอกเหนือไปจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของลูก ผู้ที่รักรักหมดหัวใจและปรารถนาจะรับใช้ไปตลอดชีวิต

ในปี  ค.ศ.1916 ท่านก็เข้าเงียบครั้งแรกตามแนวทางของนักบุญอิกญาซีโอ แห่ง โลโยลา หลังจากการนั่งรำพึงเรื่อง เสียงเรียกของพระคริสต์ราชา ท่านได้ความว่า ต้องมีใจสมัครที่ติดตามพระเยซูที่ใดก็ตามที่พระองค์ประสงค์ พระองค์ทรงเลือกความยากจน ความอัปยศอดสู กางเขน ดิฉันจะยังไม่ได้รับของขวัญเหล่านี้ตั้งแต่พระองค์ทรงสร้างดิฉัน  โปรดรักษาดิฉันในชีวิตและปลดปล่อยดิฉันออกจากนรก?  ก็ยังดีกว่า พระองค์ทรงได้รับความเดือดร้อนมานานกว่าสามสิบปีที่ผ่านมาทุกชนิดของความเจ็บปวด เพื่อจะสิ้นพระชนม์ในที่สุดบนไม้กางเขนอันเป็นที่สุดของความแปดเปื้อนของบรรดาผู้ชายและดิฉันจะไม่ต้องการรับทุกข์ทรมานสิ่งใดสำหรับความรักของพระองค์?



และทั้งๆที่มีความยากลำบากในชีวิต ลิลลี่น้อยๆก็สามารถจะชนะอุปสรรคนั้นมาได้ด้วยความสดใส และเช่นเด็กหญิงทั่วไปท่านทำทุกสิ่งที่พวกเขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกิจกรรมมากมายทั้งการเล่นเปียโน ว่ายน้ำ นอกจากนั้นลิลลี่น้อยๆยังสอนเด็กๆเรื่องCCD ท่ามกลางครอบครัวหรือเพื่อนมากมายท่านไม่เคยคิดที่จะเล่นตลกกับพวกเขา ในวันหยุดท่านใช้เวลาไปชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ขี่ม้าเล่นกับเพื่อนๆ  ช่วยพระสงฆ์สอนคำสอน


ในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ.1917 ท่านเขียนจดหมายไปถึงภคินีคาร์เมไลท์ในอารามที่แอนดีส ที่ตั้งอยู่ใต้เทือกเขาชื่อเดียวกับอาราม  ที่อยู่ห่างจากซันติอาโกไป 70 กม. เพื่อแสดงความปรารถนาที่จะเข้าอาราม ตอนนี้ดิฉันจะบอกท่านว่า ดิฉันไม่เคยรู้จักกันเป็นส่วนตัวใดๆกับภคินีคาร์เมไลท์ ดิฉันมีเพียงการอ่านชีวิตของเทเรซาแห่งลิซเออร์และเอลิซาเบทแห่งพระตรีเอกภาพ นั่นเป็นวิธีที่ดิฉันได้ทราบว่าคาร์เมลคือสิ่งเล็กๆน้อยๆของสวรรค์และนั่นเป็นเพราะพระเจ้าได้ทรงเรียกให้ดิฉันไปที่ภูเขาอันบริสุทธิ์.......  


ท่านเปิดเผยความต้องการของท่าน ที่ซ่อนไว้แก่น้องสาวเรเบคกาผ่านทางจดหมายลงวันที่ 15 เมษายน ค.ศ.1916  ใจความว่าช่างเป็นความสุขเสียยิ่งกระไร น้องสาวตัวน้อยของพี่ พี่ได้ถูกจับไว้ในอวนความรักของชาวประมงผู้ศักดิ์สิทธิ์ พี่หวังว่าพี่จะสามารถทำให้น้องเข้าใจความสุขนี้ได้ พี่สามารถกล่าวได้ด้วยความมั่นใจเลยว่าพี่คือหนึ่งในพระสัญญาของพระองค์และเร็วๆนี้พวกเราจะได้ฉลองพิธีหมั้นกันในอารามคาร์แมล พี่จะเป็นชีลับ น้องคิดว่าอย่างไงบ้าง พี่ได้มอบตัวเองแด่พระองค์ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พี่ได้สัญญาด้วยตัวพี่เองต่อพระองค์ มันช่างเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าพี่รักพระองค์มากแค่ไหน หัวใจของพี่มีแต่พระองค์ผู้เดียว พระองค์คืออุดมคติของพี่ อุดมคติไปตลอดกาล พี่โหยหายวันที่พี่จะได้เข้าอารามคาร์แมลเพื่อถวายตนทั้งครบแด่พระองค์ผู้เดียว เพื่อนบนอบลงเฉพาะพักตร์พระองค์ และเพื่อใช้ชีวิตอยู่กับชีวิตของพระองค์เพียงผู้เดียวคือการรักและทนทุกข์ยากซึ่งพี่จะได้ช่วยวิญญาณหลายดวงไว้ พี่กระหายวิญญาณเพราะพี่รู้ว่าดีว่านั่นคือสิ่งที่พระเยซูเจ้าของพี่ทรงปรารถนามากกว่าสิ่งใดในโลก โอ้ พี่รักพระองค์

ฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ.1918 ท่านก็ได้ถวายตนเป็นยัญบูชาเพื่อความรักและการไถ่โทษ จากแรงบันดาลใจจากพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากหลังมาไม่นานจิตวิญญาณของท่านก็ถูกปกคลุมด้วยความมืด ดังนั้นท่านจึงเข้าปรึกษากับคุณพ่อเรื่องภายในนี้ ลูกไม่แปลกใจเลย คุณพ่อผู้น่านับถือของลูก เพราะลููกได้ทูลขอพระเยซูคริสต์ที่จะกีดกันลูกจากการปลอบประโลมทั้งหมด เพื่อที่ว่าวิญญาณอื่นๆที่ลูกรักจะได้พบกับสันติและความสุขในศีลศักดิ์สิทธิ์และการสวดภาวนา



ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ.1919 ท่านและมารดาก็ได้เข้าเยี่ยมอารามคาร์เมไลท์ในแอนดีส  แต่ในวันก่อนที่ท่านจะไปท่านก็ถูกล่อลวงเรื่องการตัดสินใจของท่าน ว่าท่านสามารถทำอะไรได้มากขึ้นเพื่อความรอดของวิญญาณโดยการเข้าคณะพระหฤทัยแทน แต่เมื่อเธอมาถึงอารามและได้เยี่ยมชมข้อกังขาของท่านก็มลายเหือดหายไปสิ้น  ดิฉันรู้สึกถึงสันติที่ยิ่งใหญ่จริงๆและความสุขที่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายมัน ดิฉันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพระเจ้าต้องการให้ดิฉันอยู่ที่นั่นและดิฉันก็รู้สึกว่าตัวเองมีพละกำลังพอที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหมดเพื่อที่จะเป็นคาร์เมไลท์และอยู่ในฐานะนั้นตลอดไป

ความจริงแล้วในช่วงปลายปี ค.ศ.1917 ขณะที่มารดาและท่านกำลังเดินออกจากวัดหลังจากเสร็จพิธีมิสซา ท่านก็ได้กล่าวกับมารดาของท่าน รู้ไหมค่ะ คุณแม่ ว่าหนูต้องการที่จะเป็นคาร์เมไลท์  และทันทีมารดาของท่านก็ตอบกลับมาด้วยความสงบและเรียบง่ายว่า ถ้าพ่อของลูกยอม แม่ก็จะไม่ขัดขวาง เพราะมารดาของท่านได้เล็งเห็นถึงการกระทำของพระหรรษทานในจิตวิญญาณของท่าน ดังนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ.1919 ขณะที่ท่านพักผ่อนอยู่กับเพื่อน ท่านก็ได้เขียนจดหมายถึงบิดาเพื่อขออนุญาตเข้าอาราม ท่านใส่ทั้งใจ ความศรัทธาของท่านลงไปในจดหมายฉบับนี้ที่ลงวันที่ 25 มีนาคม  วันสมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์  แต่ความหวังของท่านก็อาจดับหายไปเนื่องจากสภาพของครอบครัวท่านในตอนนั้นประสพปัญหาทางด้านกางเงินที่กำลังดิ่งลงเนิน ซึ่งมันทำให้อาจไม่มีสินสอดพอที่จะเข้าอาราม


วันเวลาผ่านไปจนกระทั้งท่านกลับมาบ้าน ท่านก็ยังคงไม่ได้รับคำตอบจากบิดา จนที่สุดขณะที่ท่านกำลังเตรียมพร้อมที่จะออก ท่านก็สะดุดเข้ากับสายตาของบิดาท่าน ท่านจึงเข้ามาหาเขา ทันทีเช่นกันเขาพลางเอยขึ้นว่า ลูกพ่อ หากเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า พ่อก็ไม่ขัดข้อง  ขณะนั้นเองดวงใจของท่านก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข  ท่านถึงกับอุทานขึ้นว่า นักบุญโยเซฟได้กระทำการอัศจรรย์!”

ดังนั้นในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ.1919 ท่านจึงได้ก้าวเข้าประตูอารามคาแมลในแอนดีส พร้อมๆกับความทุกข์ที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว แต่กระนั้นท่านก็มีสันติและความสุขภายในจิตวิญญาณ ทันทีทันใดในวันรุ่งขึ้นท่านก็เขียนจดหมายถึงมารดาของท่านมีความว่า ขอถวายพระพรแด่พระเจ้า ลูกอยู่ในอารามน้อยๆของลูก ลูกใช้เวลาที่ดีเอาใจใส่ที่จะเดินในรองเท้าไม้ เมื่อลูกรู้สึกอึดอัดใจกับสิ่งที่เป็นลูกก็จะเอาชนะมันด้วยการหัวเราะที่บังคับไม่อยู่ โดยสรุปลูกมีความสุขมาก สำหรับลูกแล้วไม่มีอะไร ลูกพบทุกสิ่งในพระเจ้า และอีกแปดวันต่อมาท่านก็ได้เขียนในบันทึกของท่านอีกว่า ดิฉันได้เป็นคาร์แมลมาเป็นเวลาแปดวันแล้ว แปดวันแห่งสวรรค์ ดิฉันรู้สึกถึงความรักของพระเจ้า  แต่กระนั้นในท่ามกลางอารามอันเงียบความสงบท่านก็ไม่สูญเสียความตลกต่อเรื่องต่างๆของท่านไปดังที่ท่านเขียนว่า ที่นี่เราซ่อมและปะชุนมากมายกับเสื้อผ้า เพราะเรายากจน ลองจินตนาการซิว่าเครื่องแบบของคณะ ดิฉันซ่อมมันมากกว่าหนึ่งร้อยห้าสิบหย่อม จนแทบไม่เหลือเนื้อผ้าเดิมเลยทีเดียว


 14 ตุลาคม ค..1919 ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนของท่านน ฮัวนิตาน้อยก็ได้รับชุดคณะเพื่อเริ่มการเป็นนวกะพร้อมด้วยชื่อใหม่ว่า เทเรซาแห่งพระเยซูเจ้า ที่อารามท่านเป็นคนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและความรัก ท่านเสนอตัวเองที่จะทำงานอันต่ำต้อยและไม่น่าทำมากที่สุดในอาราม  แต่กระนั้นท่านก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากความเข้าใจผิดและการข่มเหงจากนวกะจารย์ของท่าน ขณะเดียวกันก็ถูกทดลองจากเหล่าซาตานทั้งหลาย

กาลเวลาผ่านล่วงมาถึงต้นเดือนมีนาคม ค..1920 ท่านได้สารภาพต่อคุณพ่อจิตตาธิการอาราม คุณพ่ออาเวรทาโน  ว่าท่านจะจากไปภายในหนึ่งเดือน ดังนั้นท่านจึงร้องขอที่จะขอใช้กิจโทษบาปเป็นพิเศษ แต่คุณพ่อไม่ปรักใจเชื่อคำพูดของท่าน จนกระทั้งวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ปีเดียวกัน ท่านก็เริ่มล้มป่วยลงด้วยโรคไข้ราดสาด แต่กระนั้นท่านก็ยังคงไปร่วมพิธี ดังนั้นจึงมีคนสังเกตเห็นและขอให้ท่านกลับไปที่เตียง


หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาท่านก็ต้องทุกข์ทรมานอยู่บนเตียง แต่กระนั้นแม้ว่าท่านจะนอนทรมอยู่บนเตียงพวกซาตานก็ไม่ลดราวาศอกให้กลับท่าน แต่กลับกันมันกับเริ่มปั่นหัวท่านว่าพระเจ้าปฏิเสธท่านเพราะท่านไม่ซื่อสัตย์ ต่อมาในวันที่ 6 เมษายน ท่านปฏิเสธที่จะออกจากอารามเพื่อไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาลของซันติอาโก และหลังจากความพยายามในวันที่  7 เมษายน ท่านจึงได้ทำพิธีปฏิญาณตนพร้อมๆกับการรับรู้จากการวินิฉัยของแพทย์ว่าท่านป่วยด้วยโรคไข้รากสาดขั้นสุดท้าย ดังนั้นท่านจึงได้รับศีลมหาสนิทเป็นครั้งสุดท้ายก่อนในเวลา 19.15 นาทีโดยประมาณของวันที่ 12 เมษายน ปีเดียวกัน เพียงสิบเอ็ดเดือนในอาราม ท่านก็ได้คืนชีวิตของท่านไปแก่พระเจ้า ด้วยวัยเพียง 19 ปี


ต่อมาในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ.1987 ใน ซันติอาโก ประเทศชิลี ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบุญราศีโดยสมเด็จพระสันตะปาปาจอลปอลที่ 2 และอีก 6 ปีต่อมาในวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ.1993 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่สองก็ได้สถาปณาท่านจากบุญราศีขึ้นเป็นนักบุญคนแรกของประเทศชิลีและเป็นนักบุญองค์แรกที่เป็นภคินีคาร์เมไลท์จากภาคพื้นอเมริกา พร้อมกับเป็นนักบุญในคณะองค์ที่สี่ที่ใช้นามเทเรซา(1.นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลา 2.นักบุญเทเรซา มากาเร็ต 3.นักบุญเทเรซาห่งพระกุมารเยซู) และล่าสุดนี้ที่งานชุมนุมเยาวชนโลก ที่บลาซิลที่จะจัดขึ้นในปีนี้ ค..2013 ท่านก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ช่วยวิงวอนจากทั้งหมด 13 ท่านด้วยกัน


การที่เราได้เลือกหนทางเเห่งกางเขนนั้นไม่ผิด เปรียบดังพระวาจาที่ว่า " ข้าพเจ้าเลือกหนทางเเห่งความจริง" ( สดด 119:30 ) เเม้ทางเเห่งกางเขนจะยากลำบากน่ะ เเต่การที่ฮัวนิต้า ได้เลือกบนหนทางเเห่งสายนี้ "กางเขน" เเม้เป็นกางเขนที่ยากลำบาก แต่ฮัวนิต้าได้สวมกอดไม้กางเขนไว้เเน่น เฉกเช่นเดี่ยวกับพระเยซูเจ้าทรงดำเนินไปยังเนินเขากัลโกธา เพื่อที่จะไถ่กู้มนุษย์ ฮัวนิต้าเองก็เช่นกัน เธอเกิดมาในครอบครัวร่ำรวย แต่หนสุดท้ายกับยากจน เธอได้เป็นเฉกเช่นเดี่ยวกับท่านนักบุญเทเรซาเเห่งพระกุมารเยซู โดยใช้ชีวิตร่วมกับองค์พระผู้ไถ่ รักและเคารพพระองค์ เมื่อวันที่เธอเขาอาราม เธอปรารถนาที่จะเป็นของพระองค์ไปตลอดชีวิต เปรียบได้กับดอกลิลลี่สีขาวที่บริสุทธิ์ กำลังชูช่อสะพรังเต็มที่ เเม้เป็นทางที่ยากลำบากเเต่ฮัวนิต้าที่จะเลือกเดินทางสายนี้ ทางที่เรียกว่า "กางเขน"


ดิฉันจะส่งเสริมให้เกิดกิจการเพื่อความสุขของผู้อื่น

ข้าแต่ท่านนักบุญเทเรซาแห่งพระเยซูเจ้าแห่งแอนดีส ช่วยวิงวอนเทอญ


ข้อมุลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...