วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

"เอลีอา" ลาเวนเดอร์น้อยของพระเจ้า


บุญราศีเอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์
Bl.Elia di San Clemente
ฉลองในวันที่ : 29 พฤษภาคม

ต้นดอกไม้แห่งภูเขาคาร์แมลน้อยๆอีกต้นเริ่มผลิยอดอ่อนเล็กๆของมันในผืนดินของจูเซปเป ฟรากาสโซ จิตรกรและมัณฑนากร กับแม่บ้านผู้มีงานบ้านมากมายอย่างปาสกัว ชานชี เมื่อวันที่ 17 มกราคม ค..1901 ในเมืองชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอิตาลีนาม บารี  หลังจากผลิกลีบอ่อนได้สี่วันดอกไม้น้อยๆก็ได้รับน้ำแห่งศีลล้างบาปจากคุณลุงฝั่งบิดาคุณพ่อชาร์ลส์ ฟรากาสโซ ในวัดนักบุญยากอบ

เทโอโดรา คือนามของดอกไม้น้อยๆนั้น ท่านเป็นลูกคนที่สามจากเก้าของครอบครัว ซึ่งรอดมาจริงๆเพียงห้าคนเท่านั้น อย่างไรก็ตามผืนดินนี้ก็อุดมไปด้วยความเชื่อที่หล่อเลี้ยงต้นอ่อนน้อยนี้ๆอย่างดี ถัดจากนั้นในปี ค..1905 บิดามารดาของท่านก็ได้ตัดสินใจย้ายจากบ้านแถวจัตุรัสนักบุญมัทธิวไปที่วิอา ปิชชีนนี ที่บ้านธรรมดาๆที่มีสวนเล็กๆ ที่นั่นในวัยราวสี่ถึงห้าปี ท่านก็ได้เห็นแม่พระได้เสด็จมาท่ามกลางแถวของดอกบัวที่แย้มบาน แล้วก็หายไปในลำแสง ซึ่งเรื่องนี้ได้จุดประกายต้นกล้าน้อยๆให้ตั้งมั่นว่าซักวันถ้าโตเมื่อไร ก็จักถวายตนในฐานะซิสเตอร์



ด้วยฐานะที่ดีพอสมควรดอกไม้น้อยจึงได้รับความรู้ในโรงเรียนอนุบาลไปจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ดำเนินงานโดยซิสเตอร์คณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ และตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติของคริสตชนเมื่อท่านอายุได้ 11 ปี หลังจากการเตรียมตัวอย่างดีพิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกของท่านก็ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม ค..1911 และในระหว่างคืนก่อนหน้านั้นท่านก็ได้ฝันเห็นนักบุญเทเรซา แห่ง พระกุมารเยซู พูดกับท่านว่า หนูจะเป็นซิสเตอร์เหมือนดิฉัน ซึ่งเป็นดั่งคำพยากรณ์ถึงอนาคตของดอกไม้น้อยไม้ดอกนี้

หลังจากนั้นท่านก็เริ่มเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการเย็บปักถักร้อยที่ใกล้ๆสถาบันของซิสเตอร์คณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นท่านยังเป็นสมาชิกของสมาคมบุญราศี อิเมลดา ลัมเบรตีนี  กับ กองทัพทูตสวรรค์แห่งนักบุญโทมัท อไควนัส และยังรวมตัวกับมิตรสหายของท่านในหอพักเพื่อรำพึงและสวดภาวนาร่วมกัน และอ่านพระวรสารบ้าง หนังสือจำลองแบบพระคริสต์บ้าง  The Eternal Maxims บ้าง สิบห้าเสาร์ของแม่พระบ้าง หรือไม่ก็ประวัตินักบุญต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตชีวประวัติของดอกไม้น้อยๆแห่งลิซิเออร์



ผ่านคำแนะนำของคุณพ่อเปโตร ฟีโอริลโล จากคณะโดมินิกกัน คุณพ่อวิญญาณของท่าน ดอกไม้น้อยๆที่เคยสับสันว่ามันควรจะบานในที่ใดดีก็ได้ตัดสินใจไปเบ่งบานภายใต้สีดำขาวของโดมินิกกันขั้นสาม ซึ่งยอมรับท่านในฐานะนวกเณรีในวันที่ 20 เมษายน ค..1914 ด้วยนามใหม่ว่า อักเนส ก่อนในวันที่  14 พฤษภาคม ค..1915 ท่านจึงได้เจริญรอยตามแบบฉบับของนักบุญแคทเทรีน แห่ง ซีเอนา และนักบุญโรซา แห่ง ลีมา ด้วยการปฏิญาณตน ผ่านการยกเว้นเป็นพิเศษจากอายุที่ยังน้อยของท่าน

หลังจากนั้นท่านก็ต้องพบกับปีอันยากลำบากจากสภาพสงคราม(..1915-..1918) มีมากมายหลายเรื่องที่เกินความสามารถของครอบครัวและประสบการณ์ของท่าน ซึ่งเป็นดั่งปุ๋ยที่ช่วยเพิ่มพูนด้านงานแพร่ธรรมและงานคำสอนและกิจเมตตาของท่าน และไม่มีอะไรที่จะรั้งความปรารถนาอันกระตือรือร้นที่ต้องการจะช่วยเหลือเพื่อนบ้านของท่านได้เลย



คุณพ่อแซร์โจ ดี จอยอา คือนามคุณพ่อเยซูอิต คุณพ่อวิญญาณคนใหม่ของท่าน ท่านพบเขาในช่วงท้ายของปี ค..1917 เมื่อท่านต้องการคำแนะนำ ซึ่งในปีต่อมาคุณพ่อก็ได้ตัดสินจำนำทางท่านและเพื่อนของท่านแคลร์ เบลโลโม (อนาคต ซ.ดิโอมีรา แห่ง ความรักของพระเจ้า) ไปยังอารามคณะคาร์เมไลท์แห่งนักบุญยอแซฟ วิอา เด รอซซี ใน บารี ซึ่งพวกท่านได้ไปเยี่ยมที่นั่นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ค..1918

ผ่านกิจกรรมวิญญาณอันเข้มข้นในปี ค..1919 ภายใต้คำแนะนำของคุณพ่อวิญญาณคนใหม่ของท่านนี้ ท่านได้เตรียมพร้อมที่จะมุ่งสู่ผืนดินแห่งภูเขาคาร์แมล ซึ่งได้เปิดรับท่านก้าวสู่ประตูในฐานะผู้ฝึกหัดในวันที่ 8 เมษายน ค..1920 ก่อนจะได้อยู่ภายใต้ชุดคณะด้วยการรับชุดคณะสีน้ำตาลพร้อมผ้าคลุมสีขาวในวันที่ 24 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน พร้อมทั้งนามใหม่ตามประเพณีที่สืบๆต่อมาในคณะว่า ซิสเตอร์ เอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์



ก่อนในวันที่  4 ธันวาคม ค..1921  ท่านจึงได้เข้าพิธีปฏิญาณตนครั้งแรก ด้วยวลีที่ตราติดในดวงใจและริมฝีปากว่า เพียงผู้เดียว ณ แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน ลูกมองดูพระองค์เป็นเวลานาน และราวกับว่าลูกได้มองลูกได้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นทั้งชีวิตของลูก และนอกจากดอกไม้น้อยๆในหุบเขาคาร์แมลดอกจะเจริญตามรอยของนักบุญเทเรซา แห่ง อาวิลลาแล้ว ทางสายน้อยของนักบุญเทเรซา แห่ง พระกุมารเยซู ท่านก็ได้นำมาใช้เป็นแนวทางอีกด้วย ทางสายน้อยของจิตวิญญาณแบบเด็กน้อย ไม่ว่าสถานแห่งไหนดิฉันก็รู้สึกได้รับ-การรับรองความสุข-เสียงเรียกโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า ส่วนพิธีปฏิญาณตลอดชีพของท่านนั้นถูกจัดขึ้นในวันที่  11 กุมภาพันธ์ ค..1925

การเดินทางครั้งใหม่ของดอกไม้น้อยภายใต้สีน้ำตาลและขาว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในเดือนแรกของนวกเณรีท่านต้องพบกับโขดหินมากมาย ซึ่งท่านได้รับด้วยพระหรรษทานวิญญาณแห่งความเชื่อ แต่ปัญหาจริงๆที่เปรียบดั่งศิลาขนาดมหึมาสุดๆเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ในปี ค..1923 หลังจากคุณแม่อธิการิณี  คุณแม่อันเจลิกา ลามเบรตี แต่งตั้งให้ท่านไปทำงานกับงานปักในโรงเรียนกินนอนหญิงที่ติดอยู่กับอาราม



รองหัวหน้า ช่างเป็นผู้เผด็จการและเข้มงวดนักด้วยความเข้าใจเพียงเล็กน้อยของคนอื่น ไม่เคยยอมเห็นความดีและความดีกับท่านที่ปฏิบัติต่อนักเรียนทั้งหลายของท่าน ท่านจึงทำหน้าที่นี้เพียงสองปีจึงถูกย้าย ซึ่งในขณะทำหน้าที่นี้ท่านก็ถือกฎและหน้าที่อย่างจริงจัง ท่านมักใช้เวลาส่วนมากอยู่ในห้องของท่าน ทุ่มเทเวลาเพื่องานปักที่ได้รับมอบหมาย

อย่างไรคุณแม่อธิการก็เห็นความพิเศษของท่านเสมอ ในปี ค..1927 คุณแม่จึงให้ท่านไปทำงานที่ห้องซาคริสเตียนของอาราม อันเป็นเวลาเดียวกันกับที่ท่านเริ่มล้มป่วยด้วยไข้หวัด(เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีนั้น) ผสมกับอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงบ่อยๆ อย่างไรท่านก็ไม่บ่นซักคำหรือเบื่อเวลาไม่มียา และในระหว่างนี้มีเพียงคุณพ่อเอลีอา แห่ง นักบุญอัมโบรส ผู้แทนอธิการของคณะคาร์เมลไลท์ เท่านั้นที่เป็นพระหรรษทานของการปลอบประโลมใจของท่าน ซึ่งท่านได้พบครั้งแรกเมื่อคุณพ่อมาเยี่ยมอารามในปี ค.. 1922 นับจากนั้นท่านก็คอยแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆกับเขาเสมอ



วันคริสมาสของปีใกล้เข้ามาอีกนิดเหมือนชีวิตท่านที่ยิ่งใกล้สินสุดลงซักที เพราะเพียงไม่กี่วันก่อนวันคริสมาสคือวันที่ 21 ธันวาคม ท่านก็ล้มป่วยหนักด้วยอาการไข้หวัดที่รุนแรงและการรบกวนต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นเรื่อง ลอยแพ ตามปกติของท่านสำหรับอาราม แต่อย่างไรนับวันอาการของท่านก็ยิ่งน่าเป็นกังวลมากขึ้นมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นในวันที่ 24 ธันวาคม แพทย์จึงถูกตามมาตรวจท่านและวินิจฉัยว่าท่านอาจป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือไขสันหลังอักเสบ เขาก็มิได้ทำอะไรมาก เพียงแต่ในเช้าวันถัดมาสองคุณหมอก็กลับมาพร้อมกับคำว่าท่านมิอาจหายได้

ดิฉันจะจากไปในวันฉลองค่ะ ในเวลา 12.00 น. ของวันสมโภชพระคริสตสมภพ ประจำปี ค..1927 ในวัย 26 ปี ดอกไม้น้อยก็ได้ถูกนำไปไว้ ณ เมืองสวรรค์อย่าสงบ แล้ว
                     “      ลูกปรารถนาจะพักเกศกา       ณ แทบชานุองค์ทรงอดิศร
                     พลางพักผ่อนกายาแลหลับนอน        พลางเอยอ้อนวาจาจากปากนี้
                            ให้ประจักษ์ถึงรักมั่นที่ลูกมี        แต่สิ่งที่ลูกจะไม่เอ่ยพาที
                     คงเพียงแค่ขอพระองค์ทรงศรี             คือวาทีนิ่มนวลจากพระองค์
                            จากนั้นลูกจะกล่าวซักพันครั้ง    หายับยั้งด้วยความอายองค์ทรง
                     ด้วยวลีองค์ทรงสองผู้มั่นคง                พระองค์เจ้าลูกรักพระองค์เอย     
เซอร์ เอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์
หลังจากนั้นนามของดอกไม้น้อยๆก็ได้ถูกประดับในแจกกันของบุญราศีในวันที่ 18 มีนาคม ค..2006  โดย สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16



ผู้ใดมีความเชื่อในพระบุตรย่อมมีชีวิตนิรันดร ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระบุตรจะไม่พบชีวิตนั้น(ยอห์น 3:36) เหมือนที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า ลูกได้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นทั้งชีวิตของลูก เราต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ขอแค่เราเชื่อและปฏิบัติตามพระองค์ พยามเลียนแบบพระองค์ให้เหมือนที่สุด ด้วยการฟังพระ เราต้องเชื่อและวางใจอย่างสุดกำลังสุดวิญญาณในพระองค์ เพราะความวางใจและความเชื่อคือกุญแจสำคัญที่จะนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร์กับพระบุตร เราต้องทำให้พระเยซูเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเราด้วยการ เชื่อ


ข้าแต่ท่านบุญราศีเอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์ ช่วยวิงวอนเทอญ

ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...