บุญราศีเอลีอา
แห่ง นักบุญเคลเมนต์
Bl.Elia di
San Clemente
ฉลองในวันที่ : 29 พฤษภาคม
ต้นดอกไม้แห่งภูเขาคาร์แมลน้อยๆอีกต้นเริ่มผลิยอดอ่อนเล็กๆของมันในผืนดินของจูเซปเป
ฟรากาสโซ จิตรกรและมัณฑนากร กับแม่บ้านผู้มีงานบ้านมากมายอย่างปาสกัว ชานชี เมื่อวันที่ 17 มกราคม
ค.ศ.1901 ในเมืองชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอิตาลีนาม
“บารี”
หลังจากผลิกลีบอ่อนได้สี่วันดอกไม้น้อยๆก็ได้รับน้ำแห่งศีลล้างบาปจากคุณลุงฝั่งบิดาคุณพ่อชาร์ลส์
ฟรากาสโซ ในวัดนักบุญยากอบ
“เทโอโดรา”
คือนามของดอกไม้น้อยๆนั้น ท่านเป็นลูกคนที่สามจากเก้าของครอบครัว
ซึ่งรอดมาจริงๆเพียงห้าคนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามผืนดินนี้ก็อุดมไปด้วยความเชื่อที่หล่อเลี้ยงต้นอ่อนน้อยนี้ๆอย่างดี
ถัดจากนั้นในปี ค.ศ.1905 บิดามารดาของท่านก็ได้ตัดสินใจย้ายจากบ้านแถวจัตุรัสนักบุญมัทธิวไปที่วิอา
ปิชชีนนี ที่บ้านธรรมดาๆที่มีสวนเล็กๆ ที่นั่นในวัยราวสี่ถึงห้าปี
ท่านก็ได้เห็นแม่พระได้เสด็จมาท่ามกลางแถวของดอกบัวที่แย้มบาน
แล้วก็หายไปในลำแสง
ซึ่งเรื่องนี้ได้จุดประกายต้นกล้าน้อยๆให้ตั้งมั่นว่าซักวันถ้าโตเมื่อไร
ก็จักถวายตนในฐานะซิสเตอร์
ด้วยฐานะที่ดีพอสมควรดอกไม้น้อยจึงได้รับความรู้ในโรงเรียนอนุบาลไปจนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่
3 ที่ดำเนินงานโดยซิสเตอร์คณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์
และตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติของคริสตชนเมื่อท่านอายุได้ 11 ปี
หลังจากการเตรียมตัวอย่างดีพิธีรับศีลมหาสนิทครั้งแรกของท่านก็ถูกกำหนดขึ้นในวันที่
8 พฤษภาคม ค.ศ.1911 และในระหว่างคืนก่อนหน้านั้นท่านก็ได้ฝันเห็นนักบุญเทเรซา
แห่ง พระกุมารเยซู พูดกับท่านว่า “หนูจะเป็นซิสเตอร์เหมือนดิฉัน” ซึ่งเป็นดั่งคำพยากรณ์ถึงอนาคตของดอกไม้น้อยไม้ดอกนี้
หลังจากนั้นท่านก็เริ่มเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการเย็บปักถักร้อยที่ใกล้ๆสถาบันของซิสเตอร์คณะรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้นท่านยังเป็นสมาชิกของสมาคมบุญราศี
อิเมลดา ลัมเบรตีนี กับ
กองทัพทูตสวรรค์แห่งนักบุญโทมัท อไควนัส
และยังรวมตัวกับมิตรสหายของท่านในหอพักเพื่อรำพึงและสวดภาวนาร่วมกัน และอ่านพระวรสารบ้าง
หนังสือจำลองแบบพระคริสต์บ้าง The Eternal Maxims บ้าง สิบห้าเสาร์ของแม่พระบ้าง
หรือไม่ก็ประวัตินักบุญต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตชีวประวัติของดอกไม้น้อยๆแห่งลิซิเออร์
ผ่านคำแนะนำของคุณพ่อเปโตร
ฟีโอริลโล จากคณะโดมินิกกัน คุณพ่อวิญญาณของท่าน
ดอกไม้น้อยๆที่เคยสับสันว่ามันควรจะบานในที่ใดดีก็ได้ตัดสินใจไปเบ่งบานภายใต้สีดำขาวของโดมินิกกันขั้นสาม
ซึ่งยอมรับท่านในฐานะนวกเณรีในวันที่ 20 เมษายน
ค.ศ.1914
ด้วยนามใหม่ว่า “อักเนส”
ก่อนในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ.1915 ท่านจึงได้เจริญรอยตามแบบฉบับของนักบุญแคทเทรีน
แห่ง ซีเอนา และนักบุญโรซา แห่ง ลีมา ด้วยการปฏิญาณตน
ผ่านการยกเว้นเป็นพิเศษจากอายุที่ยังน้อยของท่าน
หลังจากนั้นท่านก็ต้องพบกับปีอันยากลำบากจากสภาพสงคราม(ค.ศ.1915-ค.ศ.1918) มีมากมายหลายเรื่องที่เกินความสามารถของครอบครัวและประสบการณ์ของท่าน
ซึ่งเป็นดั่งปุ๋ยที่ช่วยเพิ่มพูนด้านงานแพร่ธรรมและงานคำสอนและกิจเมตตาของท่าน และไม่มีอะไรที่จะรั้งความปรารถนาอันกระตือรือร้นที่ต้องการจะช่วยเหลือเพื่อนบ้านของท่านได้เลย
คุณพ่อแซร์โจ
ดี จอยอา คือนามคุณพ่อเยซูอิต คุณพ่อวิญญาณคนใหม่ของท่าน ท่านพบเขาในช่วงท้ายของปี
ค.ศ.1917 เมื่อท่านต้องการคำแนะนำ ซึ่งในปีต่อมาคุณพ่อก็ได้ตัดสินจำนำทางท่านและเพื่อนของท่านแคลร์
เบลโลโม (อนาคต ซ.ดิโอมีรา
แห่ง ความรักของพระเจ้า) ไปยังอารามคณะคาร์เมไลท์แห่งนักบุญยอแซฟ วิอา เด
รอซซี ใน บารี ซึ่งพวกท่านได้ไปเยี่ยมที่นั่นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.1918
ผ่านกิจกรรมวิญญาณอันเข้มข้นในปี
ค.ศ.1919
ภายใต้คำแนะนำของคุณพ่อวิญญาณคนใหม่ของท่านนี้
ท่านได้เตรียมพร้อมที่จะมุ่งสู่ผืนดินแห่งภูเขาคาร์แมล
ซึ่งได้เปิดรับท่านก้าวสู่ประตูในฐานะผู้ฝึกหัดในวันที่ 8 เมษายน
ค.ศ.1920 ก่อนจะได้อยู่ภายใต้ชุดคณะด้วยการรับชุดคณะสีน้ำตาลพร้อมผ้าคลุมสีขาวในวันที่
24 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน
พร้อมทั้งนามใหม่ตามประเพณีที่สืบๆต่อมาในคณะว่า “ซิสเตอร์ เอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์”
ก่อนในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ.1921 ท่านจึงได้เข้าพิธีปฏิญาณตนครั้งแรก
ด้วยวลีที่ตราติดในดวงใจและริมฝีปากว่า “เพียงผู้เดียว ณ แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน
ลูกมองดูพระองค์เป็นเวลานาน
และราวกับว่าลูกได้มองลูกได้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นทั้งชีวิตของลูก” และนอกจากดอกไม้น้อยๆในหุบเขาคาร์แมลดอกจะเจริญตามรอยของนักบุญเทเรซา
แห่ง อาวิลลาแล้ว “ทางสายน้อย” ของนักบุญเทเรซา
แห่ง พระกุมารเยซู ท่านก็ได้นำมาใช้เป็นแนวทางอีกด้วย “ทางสายน้อยของจิตวิญญาณแบบเด็กน้อย
ไม่ว่าสถานแห่งไหนดิฉันก็รู้สึกได้รับ-การรับรองความสุข-เสียงเรียกโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า”
ส่วนพิธีปฏิญาณตลอดชีพของท่านนั้นถูกจัดขึ้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1925
การเดินทางครั้งใหม่ของดอกไม้น้อยภายใต้สีน้ำตาลและขาว
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในเดือนแรกของนวกเณรีท่านต้องพบกับโขดหินมากมาย
ซึ่งท่านได้รับด้วยพระหรรษทานวิญญาณแห่งความเชื่อ
แต่ปัญหาจริงๆที่เปรียบดั่งศิลาขนาดมหึมาสุดๆเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิ ในปี ค.ศ.1923
หลังจากคุณแม่อธิการิณี คุณแม่อันเจลิกา
ลามเบรตี แต่งตั้งให้ท่านไปทำงานกับงานปักในโรงเรียนกินนอนหญิงที่ติดอยู่กับอาราม
รองหัวหน้า
ช่างเป็นผู้เผด็จการและเข้มงวดนักด้วยความเข้าใจเพียงเล็กน้อยของคนอื่น
ไม่เคยยอมเห็นความดีและความดีกับท่านที่ปฏิบัติต่อนักเรียนทั้งหลายของท่าน
ท่านจึงทำหน้าที่นี้เพียงสองปีจึงถูกย้าย ซึ่งในขณะทำหน้าที่นี้ท่านก็ถือกฎและหน้าที่อย่างจริงจัง
ท่านมักใช้เวลาส่วนมากอยู่ในห้องของท่าน ทุ่มเทเวลาเพื่องานปักที่ได้รับมอบหมาย
อย่างไรคุณแม่อธิการก็เห็นความพิเศษของท่านเสมอ
ในปี ค.ศ.1927
คุณแม่จึงให้ท่านไปทำงานที่ห้องซาคริสเตียนของอาราม
อันเป็นเวลาเดียวกันกับที่ท่านเริ่มล้มป่วยด้วยไข้หวัด(เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีนั้น) ผสมกับอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงบ่อยๆ
อย่างไรท่านก็ไม่บ่นซักคำหรือเบื่อเวลาไม่มียา และในระหว่างนี้มีเพียงคุณพ่อเอลีอา
แห่ง นักบุญอัมโบรส ผู้แทนอธิการของคณะคาร์เมลไลท์ เท่านั้นที่เป็นพระหรรษทานของการปลอบประโลมใจของท่าน
ซึ่งท่านได้พบครั้งแรกเมื่อคุณพ่อมาเยี่ยมอารามในปี ค.ศ. 1922
นับจากนั้นท่านก็คอยแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆกับเขาเสมอ
วันคริสมาสของปีใกล้เข้ามาอีกนิดเหมือนชีวิตท่านที่ยิ่งใกล้สินสุดลงซักที
เพราะเพียงไม่กี่วันก่อนวันคริสมาสคือวันที่ 21 ธันวาคม
ท่านก็ล้มป่วยหนักด้วยอาการไข้หวัดที่รุนแรงและการรบกวนต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นเรื่อง
“ลอยแพ”
ตามปกติของท่านสำหรับอาราม
แต่อย่างไรนับวันอาการของท่านก็ยิ่งน่าเป็นกังวลมากขึ้นมากขึ้นตามลำดับ
ดังนั้นในวันที่ 24 ธันวาคม แพทย์จึงถูกตามมาตรวจท่านและวินิจฉัยว่าท่านอาจป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือไขสันหลังอักเสบ
เขาก็มิได้ทำอะไรมาก เพียงแต่ในเช้าวันถัดมาสองคุณหมอก็กลับมาพร้อมกับคำว่าท่านมิอาจหายได้
“ดิฉันจะจากไปในวันฉลองค่ะ” ในเวลา 12.00 น. ของวันสมโภชพระคริสตสมภพ ประจำปี ค.ศ.1927 ในวัย 26 ปี
ดอกไม้น้อยก็ได้ถูกนำไปไว้ ณ เมืองสวรรค์อย่าสงบ แล้ว
“ ลูกปรารถนาจะพักเกศกา ณ แทบชานุองค์ทรงอดิศร
พลางพักผ่อนกายาแลหลับนอน
พลางเอยอ้อนวาจาจากปากนี้
ให้ประจักษ์ถึงรักมั่นที่ลูกมี แต่สิ่งที่ลูกจะไม่เอ่ยพาที
คงเพียงแค่ขอพระองค์ทรงศรี คือวาทีนิ่มนวลจากพระองค์
จากนั้นลูกจะกล่าวซักพันครั้ง หายับยั้งด้วยความอายองค์ทรง
ด้วยวลีองค์ทรงสองผู้มั่นคง พระองค์เจ้าลูกรักพระองค์เอย
”
เซอร์ เอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์
หลังจากนั้นนามของดอกไม้น้อยๆก็ได้ถูกประดับในแจกกันของบุญราศีในวันที่
18 มีนาคม ค.ศ.2006 โดย สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16
“ผู้ใดมีความเชื่อในพระบุตรย่อมมีชีวิตนิรันดร
ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระบุตรจะไม่พบชีวิตนั้น”(ยอห์น 3:36) เหมือนที่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า “ลูกได้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นทั้งชีวิตของลูก” เราต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเราเป็นหนทาง
ความจริง และชีวิต ขอแค่เราเชื่อและปฏิบัติตามพระองค์
พยามเลียนแบบพระองค์ให้เหมือนที่สุด ด้วยการฟังพระ
เราต้องเชื่อและวางใจอย่างสุดกำลังสุดวิญญาณในพระองค์ เพราะความวางใจและความเชื่อคือกุญแจสำคัญที่จะนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร์กับพระบุตร
เราต้องทำให้พระเยซูเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งในชีวิตของเราด้วยการ “เชื่อ”
“ข้าแต่ท่านบุญราศีเอลีอา แห่ง นักบุญเคลเมนต์ ช่วยวิงวอนเทอญ”
ข้อมูลอ้างอิง