วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"อิสิดอร์ บาก็องฌา" พยานองค์ความจริง


บุญราศีอิสิดอร์ บาก็องฌา
Bl. Isidore Bakanja
ฉลองในวันที่ : 12 สิงหาคม 

อิสิดอร์ บาก็องฌา ได้รับการบันทึกนามในสารบบบุญราศีโดยนักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ในเดือนเมษายน ค..1994 เรื่องการดำเนินการสถาปนาเป็นบุญราศีของท่านนั้นได้รับการสนับสนุนจากทางคณะคาร์เมไลท์ เพราะทุกคนที่สวมใส่สายจำพวกสีน้ำตาลล้วนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวคาร์แมลทั้งสิ้น อิสิดอร์ บาก็องฌา เป็นหนึ่งในชาวแอฟริกันหลายคนที่ได้รับความทุกข์ยากในยุคอาณานิคมช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในขณะที่ชาวแอฟริกันส่วนมากยังเชื่อภูตผี เด็กหนุ่มผู้นี้ได้ใช้ชีวิตเป็นพยานแห่งความจริง

บาก็องฌา เกิดในเบลเยี่ยมคองโกหรือในปัจจุบันคือประเทศคองโก ประมาณปี ค..1889 ในชุมชนชาวประมงริมฝั่งแม่น้ำโบตาโต บิดามารดาคือ อิย็องซวา กับ อินยูกา  ในวัยเยาว์เราสันนิษฐานได้ว่าท่านคงได้ช่วยงานเกษตรกรรมของมารดา เพราะส่วนมากในแอฟริกาผู้หญิงมักมีหน้าที่ทำงานด้านเกษตรกรรม และอาจได้ช่วยบิดากับชาวบ้านจับปลา และแน่นอนท่านไม่เคยได้เรียนเขียนอ่านแต่ได้รับการปลูกฝังด้านความเชื่อและวัฒนธรรมอย่างเต็มเปี่ยมจนยากที่คิดได้ว่าอนาคตท่านจะหันไปจากสิ่งนี้



กระทั้งในราวปี ค..1904 ในวัย 16 ปี ท่านก็ตัดสินใจออกจากหมู่บ้านเพื่อมาแสวงโชคในเมือง และได้เข้าทำงานเป็นคนงานก่อสร้างให้บริษัทของรัฐ ขณะเดียวกันก็ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชื่อ แล็งก็องกา ซึ่งเป็นคริสตชนและมีอิทธิพลอย่างมากในชีวิตของท่าน ในการพบกันครั้งแรกแล็งก็องกาพึ่งจะได้รับศีลล้างบาปได้ไม่นาน เราไม่รู้ว่าท่านคิดอย่างไร เพราะเพียงไม่นานหลังจากมาถึงท่านก็เริ่มเรียนคำสอนกับคุณพ่อคณะทรัปปิสท์และได้รับศีลล้างบาปในวันที่ 6 พฤษภาคม ค..1906

สองเครื่องหมายที่จะย้ำเตือนตัวตนของท่านที่ท่านรับคือชื่อล้างบาปคือ อิสิดอร์ และสายจำพวกสีน้ำตาของคาร์เมไลท์ ซึ่งเป็นที่รู้จักดีว่า บ็องโกโต มาลีอา หรือเสื้อศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระ  อันนับเป็นเรื่องที่น่าสนมากที่ในสมัยนั้นธรรมทูตทรัปปิสท์สนับสนุนให้คริสตชนใหม่สวมใส่สายจำพวกและใช้อย่างจริงจัง พร้อมสอนว่าการสวดสายประคำคือวิธีการยืนยันความเชื่อคริสตชนแก่ผู้อื่น ซึ่งดูเหมือนว่าคำสอนที่จะตราตรึงในหัวใจของท่านมากๆ เพราะนับจากเป็นคริสตชนแล้วท่านก็หมั่นสวดสายประคำทุกวันและอุทิศตนต่อพระแม่แห่งภูเขาคาร์แมลผ่านการสวดสายจำพวกของพระนางด้วยความภาคภูมิ



ท่านได้รับศีลกำลังในวันที่ 25 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ก่อนจะได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกในวันที่ 8 สิงหาคม ปีถัดมา เราอาจสงสัยว่าท่านเป็นคนอย่างไรตามบันทึกแล้ว ท่านเป็นคนจริงจัง นิสัยดี ซื่อตรง มีมารยาท  อ่อนโยน เอาการเอางาน ศรัทธา ท่านมักมีสายประคำในมือ และมักมองหาโอกาสที่จะแบ่งปันความเชื่อที่ท่านค้นพบนี้แก่ผู้อื่นโดยมิได้หวงแหน จนมีหลายคนคิดว่าท่านเป็นครูคำสอน และอาศัยคำพูดและตัวอย่างของท่านี้เองที่ได้ดึงดูดทั้งเพื่อนและคนรู้จักท่านมายังพระคริสตเจ้า

ไม่นานหลังจากได้รับศีลล้างบาป ท่านก็กลับไปบ้านเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนกลับมาด้วยสาเหตุที่ไม่แน่ชัด บ้างก็ว่าเพราะท่านไม่มีเพื่อนคริสตชนที่นั่น อย่างไรเวลานี้ท่านได้มาทำงานเป็นเด็กรับใช้ในบ้านของนายหน้าบริษัทคนขาวผลิตยางยักษ์ใหญ่ชื่อ the Société Anonyme Belge (SAB) ที่นั่นท่านพบว่าคนขาวทำให้ท่านสับสนแต่ท่านก็ไม่ได้ทำงานน้อยลงไปกว่าตอนท่านทำงานเป็นช่างตัดหินก่อสร้าง เจ้านายใหม่คนนี้ของท่านเป็นชาวเบลเยี่ยม เรียกกันง่ายๆว่า เรนเดอร์



ท่านอยู่กับเขากระทั้งในปี ค..1908 เมื่อเขาได้รับหน้าที่ใหม่ที่อีกีลี ท่านจึงย้ายไปที่นั่น แต่ก่อนจะไปท่านก็ได้รับคำเตือนจากเพื่อนร่วมงานว่าคนผิวขาวที่นั่นไม่เหมือนที่นี่ แต่ท่านเชื่อนายจ้างและขจัดความกังวลนี้ก่อนเดินทางมายังที่นี่และเข้ารับงานเป็นเด็กรับใช้ให้นายอ็องเดร วาน กูเตอร์ ผู้โหดเหี้ยม ระดับที่ว่าเคยสั่งเผาทั้งหมู่บ้านมาแล้วด้วยเหตุชาวบ้านที่นั่นกรีดยางได้ไม่ถึงเป้า เขาเป็นนายหน้าหน้าเลือดขนานแท้เลยทีเดียว

และสำคัญกว่าอื่นใดนอกจากนายอ็องเดรจะมีชื่อเสียงในด้านความโหดเหี้ยมแล้ว เขายังเป็นปฏิปักษ์กับศาสนาอย่างรุนแรง เพราะ เสียผลประโยชน์จากการที่บรรดาธรรมทูตได้ต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวพื้นเมือง เขาจะเรียกทุกคนที่เกี่ยวกับศาสนาเชิงเยาเย้ยว่า ม็อง แปร์ แต่ในเวลานนั้นชนพื้นเมืองที่อีกีลีไม่มีใครทราบความหมายสักคน เพราะในเวลาที่ท่านไปถึงนั้นพวกเขาไม่เคยแม้แต่จะยินเรื่องราวของคริสต์ศาสนาเลยด้วยซ้ำ นี้แหละคือสภาพที่ท่านจะต้องพบในสถานที่ที่กฎหมายเอาผิดคนผิวขาวไม่ได้อย่างที่นี่



แต่ด้วยนิสัยรักการภาวนา ไม่นานเพื่อนรวมงานของท่านก็ต่างรู้สึกทึ่งและเริ่มขอให้ท่านสอนเรื่องราวของพระคริสตเจ้า การสวดภาวนา และขอร่วมสวดพร้อมกับท่าน  จนเมื่อเรื่องนี้ทราบไปถึงนายวาน กูเตอร์ เขาก็สั่งห้ามท่านสวดภาวนาคนเดียวหรือสวดแบบหมู่คณะ แกจะมีหมู่บ้านนักภาวนาและจะไม่มีอ้ายหน้าไหนต้องการทำงาน

วันหนึ่งขณะท่านกำลังทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้นายจ้างของท่านอยู่นั้น นายจ้างของท่านก็ได้เห็นว่าท่านสวมสายจำพวกอยู่ในเสื้อ เขาจึงสั่งให้ท่านเอามันออก แต่เมื่อท่านปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น เขาก็กระฉากเสื้อท่านออก ก่อนเฆี่ยนท่าน 25 ครั้ง พร้อมบอกกับท่านว่าเขาจะไม่ยอมให้มีพวก คุณพ่อ ในที่ดินของเขาเป็นอันขาด และดูเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจพอสำหรับนายจ้างท่าน มีอะไรบางสิ่งในคำปฏิเสธอย่างภาคภูมิที่จะละทิ้งความเชื่อของท่านที่ได้จุดไฟโทสะในใจของเขาจนประทุ



เพียงไม่นานเท่าไรจากเหตุการณ์วันนั้น เขาก็สั่งให้คนตามท่านและพามาหาเขาอีก เช่นกันกับคราวทีแล้วเขาสั่งให้ท่านถอดสายจำพวกออก แต่ท่านก็ปฏิเสธเช่นเดิม ด้วยโทสะครั้งนี้นายอ็องเดร วาน กูเตอร์ นายจ้างท่านจึงลงมือกระชาก เสื้อศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระ ออกจากคอของท่านแล้วโยนให้ฝูงสุนัขของของด้วยตัวเอง ก่อนจะลงมือสั่งให้คนของเขาจับท่านนอนคล้ำหน้าลงกับพื้น เพื่อจะเฆี่ยนท่านอย่างไร้ความปรานีโดยใช้แส้แบบพิเศษที่มีตะปูอยู่ที่ปลายแส้

แต่แม้จะไม่เต็มใจนักที่จะทำตามคำสั่งของนายวาน กูเตอร์ พวกเขาก็ต้องทำเพราะหากแม้นขัดคำสั่งแล้วชะตากรรมของพวกเขาก็คงไปต่างไปจากท่าน ดังนั้นแทนที่จะยึดในหลักความยุติธรรม พวกเขาก็ต่างเฆี่ยนตีท่าน ฉีกกระชากเนื้อจากกระดูก แทนที่จะมีเมตตานายวาน กูเตอร์กลับเพียงเตะท่าน ตีท่าน และทำร้ายท่านต่างๆนานาอยู่ตลอดเวลา เพียงเพราะท่านยึดมั่นในพระคริสตเจ้า



จนกระทั้งบรรดาลูกจ้างเหล่านั้นสิ้นแรงจะเฆี่ยนท่านต่อ  พวกเขาก็ลากท่านไปขังไว้ในเรือนจำชั่วคราวซึ่งคือกระท่อมที่ใช้รมควันยางพาราพร้อมล่ามท่านไว้ด้วยโซ่ และทิ้งให้ท่านรับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสเป็นเวลาประมาณหนึ่งวันเต็ม กระทั้งมีผู้ตรวจการจากทางบริษัทเข้ามายังที่นี่ เหตุด้วยความกลัวว่าความชั่วช้าจะถูกเปิดเผยวาน กูเตอร์ จึงเร่งไปยังกระท่อมและลากท่านออกมา ขณะเดียวกันก็สั่งให้ท่านเดินไปตามพุ่มไม้ไปยังเมืองใกล้เคียง แต่เนื่องด้วยบาดแผลอันน่ากลัวของท่าน ท่านไม่สามรถจะยืน และแทบจะไม่สามารถลากตัวท่านเองได้

นายวาน กูเตอร์มองท่านลากตัวกระทั้งท่านลับตาไป โดยที่ไม่รู้เลยว่าท่านได้ไปซ่อนอยู่ในพุ่มไม้แถวๆนั้น และถูกพบโดยผู้ตรวจการณ์ชื่อ ดคพินฮาอุส ผู้เที่ยงตรงผู้นั้น ผมเห็นชายคนหนึ่งมาจากป่าพร้อมหลังที่ฉีกขาดเป็นรอยลึก หนอง เน่าเฟะ สกปรก มีแมลงวันตอม เขายันบนไม้สองแท่งเพื่อจะได้อยู่ใกล้ผม เขาไม่ได้เดิน เขาลากตัวเองมา เขาบันทึก และเมื่อได้ทราบเรื่องของท่าน เขาก็ให้ลูกทีมของเขานำตัวท่านขึ้นไปบนเรือและพาท่านไปยังสถานที่ปลอดภัยในอีซงโก



แม้จะมีบาดแผลหนักดคพินฮาอุสก็ดูแลท่านอย่างดีที่สุด แต่ก็ไม่อาจหยุดการติดเชื้อได้ ประตูแห่งความตายเข้ามาใกล้ท่านเต็มที ท่านมีอาการโลหิตเป็นพิษและถูกส่งไปยังบูซีรา ที่ซึ่งท่านได้รับการดูแลจากครูคำสอนท้องถิ่น และได้รับการเยี่ยมจากพระสงฆ์ธรรมทูตคณะทรัปปิสท์สององค์ในระหว่างวันที่ 24-25 กรกฎาคม ปี ค..1909  ทั้งสองขอให้ท่านอภัยผู้ทำร้ายท่าน เมื่อฟังดังนั้นท่านจึงไม่รีรอที่จะประกาศว่า แน่นอนผมจะสวดให้เขา เมื่อผมอยู่ในสวรรค์แล้ว ผมก็จะสวดให้เขามากๆครับ

หลังจากนั้นท่านจึงได้รับศีลเสบียงจากพระสงฆ์ทั้งสอง และถึงแก่มรณกรรมในวันที่ 15 สิงหาคม ปีเดียวกัน พร้อมสายจำพวกที่คอและสายประคำในมือ ร่างของท่านถูกฝังอย่างเรียบง่าย และที่สุดในวันที่ 25 เมษายน ค..1994 ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ก็ทรงบันทึกนามท่านลงในสารบบบุญราศีอย่าสง่าพร้อมบุญราศีคุณแม่อีกสองคน ท้ายสุดในโอกาสงานชุมนุมเยาวชนโลก 2013 สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ก็แต่งตั้งท่านเป็นหนึ่งในองค์อุปถัมภ์ของงานนี้



ท่านทั้งหลายจงประพฤติตนให้คู่ควรกับข่าวดีของพระคริสตเจ้า(ฟิลิปปี 1:27) เราจะประพฤติตนอย่างไรให้เหมาะกับข่าวดี ง่ายๆก็คือการติดตามพระคริสตเจ้าด้วยการเป็นพระคริสต์ที่มีชีวิตคือ รักพระรักเพื่อน ดั่งเช่นท่านที่ได้สละชีวิตดีกว่าละทิ้งพระคริสตเจ้าซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่าท่านรักพระมากแค่ไหน และในเวลาเดียวกันท่านก็ได้ให้อภัยผู้ที่ทำร้ายท่านสุดหัวใจอันแสดงอย่างชัดเจนถึงการรักเพื่อนมนุษย์ของท่าน ซึ่งไม่ได้แบ่งผิวว่าจะสีไหน หรือทำอะไรไว้กับท่านบ้าง พี่น้องที่รัก ขอให้เราพยายามจะเลียนแบบชีวิตของท่านบุญราศีที่จะปฏิบัติตัวให้คู่ควรกับข่าวดีของพระคริสต์ด้วยการรักพระอย่างสุดใจ วางใจในพระองค์และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง เพราะผู้ใดไม่รักเพื่อนที่มองเห็นได้แล้ว เขาจะรักพระที่เห็นไม่ได้ได้อย่างไรกัน พร้อมกันนั้นขอเรามองเห็นพระองค์ในเขาเสมอ

ถ้าคุณพบคุณแม่ของผม  หรือไปหาผู้พิพากษา หรือพบพระสงฆ์ โปรดบอกพวกเขาด้วยว่าผมกำลังจะตายเพราะผมเป็นคริสตชน  
คำสั่งเสียของท่านถึงดคพินฮาอุส


 ข้าแต่ท่านบุญราศีอิสิดอร์ บาก็องฌา ช่วยวิงวอนเทอญ

ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...