วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

"มารีอา เด ลา ปูริซิมา" บุพผาแห่งการรับใช้




นักบุญมารีอา เด ลา ปูริซิมา แห่ง ไม้กางเขน
St. María de la Purísima de la Cruz
ฉลองในวันที่ : 31 ตุลามคม

ความยินครั้งใหม่ของชาวภคินีเพื่อนกางเขนเริ่มขึ้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ..1926 ในคฤหาสน์ของตระกูลบนถนนเกลาดีโอ โกเอลลา ถนนในย่านใจกลางเมืองเก่าของมาดริด ประเทศสเปน เมื่อเด็กหญิงมารีอา อิซาเบล ซัลวัต โรเมโร ได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นลูกคนที่สามจากแปดคนในครอบครัวชนชั้นสูงของนายรีการ์โด ซัลวัต อัลแบรต์ ชาวเมืองมาลากา(สเปน) กับนางมาร์การิตา โรเมโร เฟรเรร์ ชาวมาดริด

หนูน้อยได้รับศีลล้างบาปในเขตวัดแม่พระปฏิสนธินิรมล ที่ตั้งอยู่บนถนนโกยาของกรุงมาดริด และได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกจากโรงเรียนของคณะแม่พระแห่งโลเรโต หรือที่ชาวสเปนเรียกกันง่ายๆว่า คณะมาเดรส อิร์ลันเดซัส(แปล-คุณแม่ชาวไอร์แลนด์ เพราะคณะมาจากไอร์แลนด์) ที่ตั้งอยู่บนถนนเวลัซเกซ ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้จัดให้ท่านได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกเมื่อท่านอายุได้ 6 ขวบ



แต่ระหว่างที่ศึกษาอยู่นั้น ก็เกิดสงครามกลางเมืองสเปนขึ้นในเดือนกรกฎาคม ค..1936 ท่านกับครอบครัวจึงจำต้องย้ายเมืองฟีกีรา ดา ฟอซ ในประเทศโปรตุเกส แต่ก็อยู่เพียงปีเดียวครอบครัวของท่านก็กลับมาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองซาน เซบัสเตียนของประเทศสเปน กระทั้งสงครามยุติลงทั้งหมดจึงกลับไปยังมาดริด และใช้ชีวิตตามปกติ จวบจนจากเด็กหญิงตัวน้อยๆก็ค่อยๆค่อยเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นสาวน้อยวันแรกรุ่น ในท่ามกลางสังคมที่วัฒนธรรมและศาสนาเป็นสิ่งสำคัญมาก

ในวัยรุ่นท่านจัดเป็นคนที่มีสง่าราศี มีระดับ สวย เป็นกันเองและมีไหวพริบดี ซึ่งแม้ว่าท่านจะเป็นคนพูดน้อย ท่านก็พูดได้ถึงสี่ภาษา คือ สเปน อิตาลี อังกฤษและฝรั่งเศส และเช่นกัน แม้ท่านจะครองตนอย่างผู้ดีเช่นไร ท่านก็เปี่ยมไปด้วยจิตตารมณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ท่านยังเป็นคนที่น่าสนใจและมีเพื่อนในระดับเดียวกันที่ต่างรักท่านหลายคน ท่านไปทั้งงานสังสรรค์และไปมาหาสู่กับเพื่อนที่ครอบครัวท่านรู้จัก แต่ขณะเดียวกันภายในวิญญาณของท่าน กระแสเรียกของท่านก็ถูกบ่มเพาะอยู่ในอยู่ภายใน


และเพื่อไล่ตามกระแสเรียก ท่านและมาริการ์ อิบาเญซ(ภายหลังเข้าคณะแม่พระแห่งโลเรโต) เพื่อนของท่านก็พากันไปเยี่ยมตามอารามต่างๆ กระทั้งปี ค..1942 ท่านก็ได้ลองเข้าค่ายกระแสเรียกครั้งแรกกับคณะภคินีเพื่อนกางเขน ทันทีหลังจากนั้นท่านก็พบทันทีว่ากระแสเรียกของท่านก็คือการเป็นเพื่อนกางเขนที่ก่อตั้งโดยนักบุญอันเกลา แห่ง ไม้กางเขน แต่เมื่อบิดามารดาท่านทราบความตั้งใจนี้ ทั้งสองก็ทำทุกอย่างเพื่อขัดขวางท่านจากการเป็นซิสเตอร์

ระหว่างนั้นในวันที่ 10 ธันวาคม ค..1943 ท่านก็ได้ถวายตนต่อพระนางมารีย์ และได้รับเหรียญแม่พระของคณะธิดามารีย์ของโรงเรียนของคณะมาเดรส อิร์ลันเดซัส ก่อนในวันที่ 21 กรกฎาคมปีถัดมา ท่านก็ได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งมาดริด เพื่อรับการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และแม้จะถูกขัดขวางกระนั้นก็ตามในปีนั้น ในวันที่ 8 ธันวาคม ด้วยวัย 18 ปี ท่านก็ได้เข้าเป็นโปสตุลันต์ของคณะภคินีเพื่อนกางเขนในอารามของคณะที่เมืองเซบีญา



ท่านได้รับชุดคณะและนามใหม่ว่า ภคินีมารีอา เด ลา ปูริซิมา แห่ง ไม้กางเขน ในวันที่ 9 มิถุนายน ค..1945 ก่อนเข้าพิธีปฏิญาณตนครั้งแรกในวันที่ 27 มิถุนายน ค..1947 และปฏิญาณตนตลอดชีพในวันที่ 9 ธันวาคม ค..1952 ซึ่งในฐานะซิสเตอร์คณะภคินีเพื่อนกางเขนนี้ ท่านก็เป็นผู้ติดตามรอยเท้าของคุณแม่อันเกลาผู้ก่อตั้งคณะอย่างซื่อสัตย์ และผู้ปฏิบัติตามตามธรรมนูญของคณะได้อย่างครบถ้วนทุกระเบียบนิ้ว

ท่านดำรงตำแหน่งอธิการโรงเรียนในโลเปรา บายาโดลิด เอสเตปา และบิลยานูเอบา เดล ริโอ อี มีนัส ก่อนจะได้ดำรงตำแหน่งเป็นนวกจารย์ในปี ค..1966 และเจ้าคณะแขวงในอีกสามปีถัดมา หลังจากนั้นในปี ค..1970 ท่านก็ได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษาลำดับที่สามของมหาธิการิณีของคณะ กระทั้งเมื่อมหาธิการิณีคนเดิมหมดวาระ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค..1977 ท่านจึงได้รับเลือกให้เป็นมหาธิการิณีสืบต่อไป และได้รับเลือกอีกตลอด 22 ปีด้วยมติเป็นเอกฉันท์ (..1983, ..1989 และ ค..1995)



แต่ถามว่าเมื่อท่านรับตำแหน่งมหาธิการิณีของคณะ ท่านเปลี่ยนไปไหม คำตอบก็คือไม่ ท่านยังคงดำเนินชีวิตอย่างเคร่งครัดและยากจน ในสิ่งเล็กน้อย เล็กน้อย ท่านสอนซิสเตอร์ที่จะเจริญชีวิตตามจิตตารมณ์ของคณะ พร้อมมอบตนเองแด่ทุกๆคนที่มีความต้องการ โดยเฉพาะบรรดาเด็กหญิงในโรงเรียน  นอกจากนี้ภายในหัวใจของท่านยังมีคนยากไร้และคนป่วยอยู่เป็นพิเศษ ในบิลยานูเอบา ท่านชอบแวะไปดูแลผู้ป่วยชราภาพทุกวันในตอนเช้า และแม้ท่านในขณะนั้นท่านจะดำรงตำแหน่งอธิการ ท่านก็ลงมือซักผ้า เตรียมอาหาร อาบน้ำให้พวกเขาเอง แถมยังชอบทำงานที่ยากๆและน่าเบื่อที่สุดเสมอ

และในฐานะมหาธิการิณีท่านก็ปกครองคณะด้วยความร้อนรนอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย ตามจิตตารมณ์ของภคินีเพื่อนกางเขน ส่วนอุดมการณ์ของท่านก็คือการเจริญชีวิตตามพระพรพิเศษของคุณแม่อันเกลา ผู้ก่อตั้งคณะ และเจริญชีวิตอย่างเรียบง่าย ถ่อมตน และเปี่ยมไปด้วยความเชื่อ แล้วใครจะทำได้อย่างนี้ละ ไม่ต้องไปไกลที่ไหนอุดมการณ์เหล่านี้ปรากฏชัดในตัวท่าน ผู้ติดตามการทำงานอย่างสัตย์ซื่อ ผู้ที่ได้จุดประกายความปรารถนาที่จะเลียนแบบความรักของพระเจ้าและคณะอันศักดิ์สิทธิ์ให้ลุกโชนอยู่ในดวงใจของบรรดาธิดาทั้งหลาย



นอกจากนี้ระหว่างดำรงตำแหน่งมหาธิการิณีท่านยังได้มีโอกาสร่วมพิธีบันทึกนามคุณแม่อันเกลาเป็นบุญราศี ได้ต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 และได้เปิดบ้านของคณะในปัวร์ตอลลาโน , อูเอลวา เรจโจ การาเบรีย ประเทศอิตาลี ,กาดิซ , ลูโก , ลีนาเรส และที่อัลกาซาร์ เด ซาน ฆวน

ท่านดำรงตำแหน่งมหาธิการิณีได้ 22 ปี ท่านก็ถึงแก่มรณกรรมอย่างสงบในวันที่ 31 ตุลาคม ค..1998 ด้วยอายุ 72 ปี ลูกมีความยินดีเมื่อพวกเขาทั้งหลายกล่าวว่าไปบ้านขององค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด คือคำพูดเดียวก่อนสิ้นใจที่ทุกคนได้ยิน แม้ว่าวันนั้นท่านจะทรมานมากแค่ไหน ท่านก็ไม่บ่น ท่านเพียงแต่เอ่ยวลีนั้นเท่านั้น ร่างของท่านถูกฝั่งไว้ในห้องใต้ดินของอาราม ที่เดียวกับที่เคยฝังคุณแม่อันเกลา และภายหลังจากเกิดอัศจรรย์ ในวันที่ 18 กันยายน ค..2010 ก็ได้มีพิธีบันทึกนามท่านไว้ในสารบบบุญราศี โดยมีพระคาร์ดินัลอันเยโล อามาโต เป็นผู้แทนสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เป็นประธานในพิธี



และในโอกาสบันทึกนามท่านครั้งนั้น สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ก็ทรงเขียนในสาส์นโอกาสสถาปนาท่านเป็นบุญราศีว่า สว่างไปด้วยปรีชาญาณแห่งไม้กางเขน เธอได้อุทิศชีวิตของเธอเพื่อรับใช้คนยากไร้และคนป่วย และเพื่อการศึกษาตามแบบคริสต์ศาสนาแก่บรรดาเยาวชน และที่สุดหลังมีอัศจรรย์ผ่านคำเสนอวิงวอนของท่านอีกครั้ง ในวันที่ 18 ตุลาคม ค..2015 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ก็ทรงยกท่านไว้ ณ พระแท่นเคียงคู่นักบุญอังเกลาในฐานะนักบุญลำดับที่สองของคณะ

เพราะบุตรแห่งมนุษย์มิได้มาเพื่อให้ผู้อื่นรับใช้ แต่มาเพื่อรับใช้ผู้อื่น(มาระโก 10:45) จากพระวรสารข้อนี้พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกร้องให้คริสตชนเลือกที่จะเป็น ผู้รับใช้ มากกว่าเป็น ผู้ถูกรับใช้ คือการเรียกให้เราตัดสละน้ำใจของเราเอง ลดทิฐิของเรา เพื่อจะพุ่งทะยานไปสู่ความชิดสนิทกับพระเป็นเจ้าผ่านการรับใช้ เพราะประตูไปสวรรค์นั้นแคบเกินกว่าจะเอาทิฐิผ่านไปกันพร้อมได้  และหากเรารับใช้คนที่มองเห็นไม่ได้ แล้วเราจะไปรับใช้คนที่เรามองไม่เห็นได้อย่างไร คุณแม่มารีอา คือตัวอย่างอีกอันที่แจ่มชัดในเรื่องนี้ ท่านไม่ลังเลใจที่จะตรงไปรับใช้ผู้ป่วยหรือทำสิ่งที่ต่ำต้อย แม้ท่านจะได้รับเลือกให้เป็นมหาธิการิณีของคณะก็ตาม ให้เราวอนขอให้พวกเรามีใจรักรับใช้เช่นท่านเถิด


ข้าแต่ท่านนักบุญมารีอา เด ลา ปูริซิมา แห่ง ไม้กางเขน ช่วยวิงวอนเทอญ

***หมายเหตุคำว่า ลา ปูริซิมา แปลว่า การปฏิสนธินิรมล ผู้แปลไม่แน่ใจว่าเป็นสร้อยต่อศาสนนามหรือเปล่า หรือเป็นชื่อศาสนานามแบบมารี เดอ ลูร์ด แต่จะสังเกตว่ามีคำว่า เดอ ลา ครูซ ต่อท้ายผู้แปลจึงคิดว่า ศาสนนามของท่านน่าจะคือ มารีอา เด ลา ปูริซิมา เพราะถ้าตัว ลา ปูริซิมา เป็นสร้อย ก็ควรจะใช้ต่อว่า อี เด ลา ครูซ หรือ และไม้กางเขน แต่นี่ใช้เดอ ลา ครูซ ผู้แปลจึงคิดเช่นนั้น 

ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...