วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

"โยซาฟาตา" ชีวิตนี้เพื่อยูเครน


บุญราศีโยซาฟาตา โฮรดาแช็ฟสกา
Bl. Josaphata Hordashevska
ฉลองในวันที่ : 20 พฤศจิกายน

แม้นแสงแดดจะร้อนเพียงใด ณ สนามแข่งม้าเมืองลวีฟ ผู้คนมากมายก็ต่างมาร่วมเป็นประจักษ์พยานในการสถาปนาบุญราศีใหม่ของจารีตยูเครเนี่ยน กรีก คาทอลิก 28 องค์ ภาพไอคอนสีทองจำนวนสี่ภาพค่อยๆทยอยถูกแห่ขึ้นไปยังเวทีชั่วคราวสีขาว ประกอบด้วยภาพของมรณสักขีกลุ่มใหญ่หนึ่งภาพ ภาพพระสงฆ์อีกสองภาพ และภาพซิสเตอร์อีกหนึ่งที่แต่งกายด้วยชุดสีน้ำเงินยาว  พร้อมผ้าคุลมศีรษะสีดำ อันเป็นภาพของซิสเตอร์คณะภคินีผู้รับใช้แห่งพระนางมารีย์ผู้นิรมลนาม โยซาฟาตา

ซิสเตอร์โยซาฟาตาเป็นใคร เรื่องนี้ก็คงต้องเริ่มตั้งแต่วันที่ไมเคอลีนา โฮรดาแช็ฟสกา ลืมตาดูโลกในลวีฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค..1869 ก่อนจะค่อยๆเติบโตขึ้นไปทั้งทางกายและจิตใจในครอบครัวคริสตชนยูเครเนี่ยน กรีก คาทอลิก และดูเหมือนว่าตั้งแต่เยาว์วัยท่านจะแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ ด้วยพร้อมพี่สาวของท่าน อันนา ท่านตัดสินใจเลียนแบบฤษีด้วยการกินรากผัก ขณะเดียวกันหลายต่อหลายครั้งท่านก็มักวิ่งเข้าไปสวดในวัดน้อยในป่าใกล้ๆบ้านเสมอ


กระทั้งมีวัยได้ 18 ปี ท่านก็มีความคิดว่าจะเข้าอารามของซิสเตอร์คณะบาซีเลี่ยน อันคณะนักบวชเดียวของผู้หญิงตามจารีตตะวันออกในเวลานั้น กระทั้งในปี ค..1888 ที่อายุ 19 ท่านก็ได้มีโอกาสเข้าเงียบกับคุณพ่อเยเรมีย์ ลอมนีตสกี คณะบราซีเลี่ยน และในท่ามกลางความเงียบนั้นเอง ท่านก็ได้ค้นพบกระแสเรียกที่จะอุทิศตนเองทั้งครบแด่พระเจ้า และแสวงหาการนำของพระองค์ในความสันโดษ กระทั้งได้รับอนุญาตจากคุณพ่อเยเรมีย์ คุณพ่อวิญญาณของท่าน ในเดือนพฤษภาคม ค..1889  ท่านก็ได้ปฏิญาณตนถือพรหมจรรย์เป็นระยะเวลาหนึ่งปี ก่อนปฏิญาณอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ปีถัดมา จนถึงในปี ค..1901 คุณพ่อวิญญาณของท่านก็ได้ทำให้ท่านต้องแปลกใจ

คณะใหม่งั้นหรือ ถูกแล้ว คุณพ่อได้มาถามท่านว่าท่านยินดีจะเข้าเป็นสมาชิกคนแรกของคณะใหม่ที่คุณพ่อวางแผนพร้อมกับเพื่อนสงฆ์ประจำซูเซลอีกคนไหม เพราะเนื่องจากในเวลานั้น ชาวยูเครนมากมายที่อาศัยอยู่ในยุโรปตะวันออกภายใต้การปกครองของจักรวรรดิฮังการีต้องตกอยู่ในความยากไร้มากมายทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิต ผู้หญิงและเด็กถูกทอดทิ้ง โดยเฉพาะในหมู่บ้านที่ถูกครอบงำด้วยความผิดศีลธรรม ความไม่รู้หนังสือ ไสยศาสตร์และความมึนเมา จะหันไปพึ่งคณะนักบวชหญิงก็มีแต่คณะบาซีเลี่ยนที่เป็นคณะนักพรตซึ่งขังตัวในเขตพรต ดังนั้นมันจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคณะนักบวชหญิงที่จะก้าวไปบนสนามแห่งการแพร่ธรรมนี้ เพื่อประกาศพระวรสารอย่างที่ริเริ่มไว้โดยคุณพ่อคณะบาซีเลี่ยนผ่านการเข้าเงียบและการแพร่ธรรม อย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน ด้วยการสอนคำสอนอันจะเป็นทางสำหรับการสร้างความเชื่อในประชากรของพระเจ้า


คุณพ่อวิญญาณท่านพยายามเสนอท่านว่าแทนที่ท่านจะเข้าคณะบาซีเลี่ยน ท่านอาจจะเข้าและก่อคณะแพร่ธรรมใหม่นี้ แต่ท่านก็ยังไม่ตัดสินใจในทันทีและขอเวลาสวดภาวนาเพื่อดูว่านี่ใช่น้ำพระทัยสำหรับท่านจริงๆหรือไม่  และเพียงไม่กี่วันท่านก็กลับมาหาคุณพ่อพร้อมคำตอบอันกล้าหาญว่าได้ ถ้าผู้คนต้องการท่าน ท่านก็เต็มใจและพร้อมที่จะเสียสละสิ่งต่างและที่จะเผชิญกับกางเขนทุกชนิดจากคณะใหม่นี้ และเหนือสิ่งอื่นใดท่านมั่นใจว่าสิ่งนี้แหละคือน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับท่าน ดิฉันลังเลอยู่ครู่ด้วยความไม่รู้ แต่ด้วยสายตาที่ต้องการของคนยากไร้ และด้วยตระหนักดีว่ามันเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ดิฉันจึงตัดสินใจทำตามเสียงของพระองค์ และน้อมรับความทุกข์ยากทั้งหมดซึ่งจะนำมาในคณะในอนาคต

ดังนั้นเมื่อท่านเห็นด้วยเช่นนี้ คุณพ่อวิญญาณของท่านจึงส่งท่านไปพักกับซิสเตอร์คณะเฟลีเชี่ยนเป็นระยะเวลาสองเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ค..1892 ที่อารามของคณะใกล้ๆลวีฟ เพื่อศึกษาชีวิตนักบวชที่ไม่ได้จำกัดตนเองในเขตพรต ซึ่งพวกเขาก็ยินดีจะรับท่านเข้าคณะ แต่ท่านตระหนักดีว่าหากท่านเข้าคณะโปลิชนี้ ท่านก็จะถูกพาออกห่างจากชาวยูเครนพี่น้องร่วมชาติที่กำลังทุกข์ยากจากการเมือง ท่านเดินทางกลับมายังลวีฟ ในวันที่ 22 สิงหาคม ปีนั้น พร้อมได้ออกแบบและตัดเย็บชุดคณะใหม่ในทันที


จนกระทั้งในวันที่ 24 สิงหาคม ท่านจึงได้รับชุดคณะใหม่นี้ด้วยชื่อใหม่ว่า โยซาฟาตา ตามนามของนักบุญโยซาฟัส มรณสักขีเพื่อเอกภาพชาวยูเครนผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นท่านจึงย้ายไปยังซูเซล ที่ซึ่งคุณพ่อผู้ร่วมกับคุณพ่อวิญญาณของท่านได้เตรียมเด็กหญิงเจ็ดคนที่ปรารถนาจะเข้าคณะใหม่ อันเป็นการจุดเริ่มต้นของ และที่สุดในวันที่ 27 สิงหาคม ค..1892 คณะภคินีผู้รับใช้แห่งพระนางมารีย์ ก็ได้ถูกตั้งขึ้น ณ วัดของซูเซล โดยมีคุณแม่อธิการคนแรกคือท่าน

ทีละนิด ละนิดจากที่เรียกว่าแทบไม่มีอะไรเลย คณะก็ค่อยๆเติบโต โดยมีท่านคอยปกป้องไม่ให้สมาชิกออกจากจิตตารมณ์ตั้งต้นของคณะ ด้วยจิตใจที่ไม่มีขอบเขตที่จะปฏิบัติพันธกิจ ท่านเคยกล่าวว่าผู้ฝึกมีความเข้าใจคนอื่นและรับใช้ผู้ต้องการย่อมเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ท่านทราบถึงความต้องการของเพื่อนร่วมชาติของท่านดี เวลาเดียวกันก็พบวิธีที่จะช่วยพวกเขาตามความต้องการ ตั้งแต่การก่อตั้งศูนย์รับเลี้ยงเด็กสำหรับเด็กเล็ก การแจกยาฟรีสำหรับโรคทั่วๆไป การจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กๆ การสอนพระคัมภีร์และชีวประวัตินักบุญทั้งแก่เด็กและผู้ใหญ่ การตัดเย็บอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อพระสงฆ์ การดูแลค่าใช้จ่ายสำหรับบำรุงวัด และการดูแลผู้ป่วยในช่วงเกิดโรคระบาด



โยซาฟาตา รักพระเจ้าในรูปผู้ยากไร้ของพระองค์ ซิสเตอร์ดอมินิก เยเนวีฟ สลาวูตา ผู้ร้องขอให้มีการเปิดกระบวนการของท่านกล่าว มีครั้งหนึ่งระหว่างท่านอยู่ที่เซร์โวโนกรูด ท่านก็ได้ทราบว่ามีขอทานหญิงคนหนึ่งกำลังถูกปล่อยให้ตายในโรงนาใกล้ๆ ท่านจึงรีบตรงไปแบกเธอมายังอารามด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากไม่มีเตียงพอ ท่านจึงพาเธอไปยังเตียงของท่านเอง ก่อนจะจัดแจงเช็ดเนื้อเช็ดตัว พร้อมฆ่าเชื้อให้แก่เธอ แล้วจึงเฝ้าดูแลเธอทั้งกลางวันและกลางคืน กระทั้งเธอได้สิ้นใจในศีลในพรของพระ

กาลเวลาผ่านไปเป็นเวลาสิบปีจากไม่มีอะไรคณะก็มีบ้านถึง 26 แห่งทั่วยูเครน และสมาชิกอีก 128 คน ดังนั้นจึงเป็นเวลาอันสมควรอย่างยิ่งที่คณะจะมีมหาอธิการริณีได้ซักที จึงได้มีการเลือกขึ้นในวันที่ 26 มีนาคมปีนั้นและผลที่ได้ก็คือท่านได้รับเลือก นอกจากนั้นคุณพ่อวิญญาณของท่านยังได้ตั้งท่านเป็นผู้แทนของคณะอีกด้วย แต่เพียงไม่นานเมื่อพบการแบ่งแยกภายใน ท่านก็ขอสละตำแหน่งจากต่อพระอัครสังฆราชยูเครเนี่ยน กรีก คาทอลิก แห่งลวีฟ และภายหลังได้มหาอธิการิณีคนใหม่ที่พระอัครสังฆราชแต่งตั้ง ท่านและซิสเตอร์อีกคนของท่านก็ถูกสั่งห้ามปฏิญาณตนตลอดชีวิตสองปีติดกัน  เวลาเดียวกันท่านก็ถูกส่งไปทำงานที่ยากที่สุดและถูกกีดกันจากการลงคะแนนเสียง


ท่านน้อมรับการปฏิเสธนี้อย่างกล้าหาญ โดยไรซึ่งความท้อแท้ใดๆ แม้มันจะเป็นเรื่องอยุติธรรมสำหรับท่าน ท่านยังคงเฝ้าศีลในยามกลางคืน หัวเราะกับบรรดาซิสเตอร์ในเวลาพักด้วยเรื่องเล่าต่างๆและกิจกรรมสันทนาการ ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังได้เผยให้เห็นถึงขุมทรัพย์ฝ่ายจิตจำนวนมากของท่านแก่ทุกคน ผ่านการเจริญชีวิต การทำงาน และการเดินทาง

แต่ด้วยคณะสงฆ์ได้ตัดสินใจเลือกท่านเป็นอัครผู้แทน แม้ท่านจะไม่ได้ไปและด้วยมีผู้แทนถวายฎีกาปริมณฑลเพื่อขออนุมติให้ท่านได้เข้าพิธีปฏิญาณตน ที่สุดท่านจึงได้รับอนุญาตให้เข้าพิธีปฏิญาณตน ประการฉะนี้ในวันรุ่งขึ้นคือในวันที่ 11 พฤษภาคม ..1909 ท่านจึงได้เข้าพิธีปฏิญาณตนตลอดชีพและกลายเป็นอัครผู้แทนตามความเห็นชอบของคณะสงฆ์นับแต่นั้น


แต่เพียงสามปีถัดมาท่านกก็เริ่มป่วยด้วยวัณโรคกระดูก ซึ่งท่านก็เพียรทนน้อมรับมันไว้ด้วยความอดทนและความวางใจ ท่านยังคงยิ้มและได้สัญญาว่าจะคอยสวดภาวนาให้ซิสเตอร์ทุกคนในสวรรค์ พยาบาลที่ดูแลท่านได้ขอให้ท่านสวดขอให้พระมารับท่านไปไวๆ และดูเหมือนท่านก็มั่นใจเช่นกันว่าไม่นานพระบิดาเจ้าจะมารับท่านไปรับรางวัลแล้ว ท่านสวดในเวลาก่อนสิ้นใจไม่นานว่า ข้าแต่พระเยซูเจ้า ข้าแต่พระเยซูเจ้า ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกปรารถนาเพียงพระองค์โอ้ พระเจ้า ลูกปรารถนาไปสวรรค์

กระทั้งลุถึงวันที่  7 เมษายน ค..1919 ด้วยวัย 49 ปี ภายหลังจากกล่าวว่า เยซู มารีย์ โยเซฟ ลูกขอถวายหัวใจของลูกแด่พวกท่าน และจูบไม้กางเขน ท่านก็ถึงแก่มรณกรรมอย่างสงบ ตรงตามที่ได้ทำนายไว้  ร่างไร้วิญญาณของท่านก็ถูกฝังไว้ที่สุสานคริสตีโนปิล ก่อนในปี ค..1982 จึงมีการย้ายอัฐิของท่านมายังบ้านของคณะที่กรุงโรม และหลังจากมีการเปิดกระบวนการขอแต่งตั้ง ในวันที่ 27 มิถุนายน ค..2001 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ก็สถาปนาท่านเป็นบุญราศี


ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”(ลูกา 1:38) หรือ ฟีอัต ในภาษาละติน ช่างเป็นคำพูดที่เหมาะสมยิ่งที่จะติดปากบรรดาคริตชนทุกคนไม่ว่าจะชนชั้นไหน เพราะวลีๆนี้ไม่ใช่วลีที่ใครจะกล่าวได้ง่าย และยากยิ่งกว่าที่จะทำตาม เพราะการตอบรับเช่นนี้ คือการที่เราละทิ้งตัวเราเอง ความกังวลตามประสามนุษย์ แล้วกระโดดทิ้งตัวลงในพระหัตถ์ของพระเจ้าอย่างวางใจ เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่เมื่อได้ยิน ชายผู้เป็นที่รักบอกว่า กระโดดข้ามผานั้นมาเลย ผมจะรับคุณเอง แม้แรกฟังจะกลัว แต่เมื่อเห็นอ้อมแขนอันทรงพลังนั้นของเขาจะโอบไว้ได้ก็เชื่อมั่นและกระโดดไปหาเขา เช่นกันในหลายครั้งขอเวลาพระเจ้าทรงเรียกเราเช่นชายนั้น ให้เรากระโดดไปหาพระองค์ด้วยการตอบรับพระองค์ว่า ฟีอัต ต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา

คุณแม่โยซาฟา เป็นแบบฉบับอีกอันหนึ่งของเรื่องนี้ คือเมื่อรู้ว่าคือน้ำพระทัย ท่านก็ไม่รีรอที่จะตอบรับน้ำพระทัยของพระเจ้าในการตั้งคณะ แม้จะรู้เต็มอกว่าจะพบอะไรบ้าง ท่านก็ทำเช่นแม่พระ และยึดมั่นในคำตอบรับนี้ตลอดชีวิตของท่าน โดยมิเคยสงสัยหรือเปลี่ยนใจเลย เวลานี้ชีวิตของท่านจึงยังคงเรียกร้องเราเสมอ ให้เรากล้าตอบว่า ฟีอัต ต่อน้ำพระทัยในทุกๆเวลา เพื่อให้เราบรรลุถึงการชิดสนิทกับพระเป็นเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ อัลเลลูย อัลเลลูยา



ข้าแต่ท่านบุญราศีโยซาฟาตา โฮรดาแช็ฟสกา ช่วยวิงวอนเทอญ


ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน ผู้ใหญ่ในคณะคนแรก ๆ ที่ท่านแสวงหา...