แม่พระ แห่ง กัลลีวัจโจ หรือ แม่พระ แห่ง ความเมตตา
Madonna di
Gallivaggio
ตามถนนเส้น SS36 ที่ลัดเลาะไปตามหุบเขาทางตอนเหนือของอิตาลี เมื่อตัวรถขับข้ามสะพาเหล็กที่ทอดตัวข้ามหุบผา
มันก็เผยให้เห็นยอดหอระฆังสีน้ำตาลอ่อน และตัววัดสีขาวขุ่นเพราะผ่านหนาวผ่านร้อนมานานมาพอดู
ที่มีทรงเรียบง่ายแบบพื้นถิ่นอิตาลี พร้อมป้ายที่เขียนว่า “สักการสถานแห่งกัลลีวัจโจ” สักการสถานขนาดไม่ใหญ่ที่ลี้กายอยู่ในหุบเขาสูง
ที่สร้างถวายเกียรติแด่แม่พระ
ที่ด้านหน้าของตัววัดสิ่งที่บ่งชี้ถึงแม่พระก็คือภาพเขียนเหนือประตูที่คือภาพของแม่พระขนาบด้วยเด็กสาวสองคนซึ่งตามตำนานเรียกเอทั้งสองว่า
“บุซเซตี”
และ “จานอตตี” โดยเรื่องเล่าสืบกันว่าในวันพุธ
ที่ 10 ตุลาคม ค.ศ.1492 ขณะเด็กสาวทั้งสองออกไปเก็บผลเกาลัดที่ตกจากต้นจนเหน็ดเหนื่อยจึงนั่งพักลงที่ก้อนหิน
ทันทีดวงตาของทั้งสองก็ประสพกับแสงสว่างจร้าชนิดไม่สามารถหาสิ่งใดเทียบเท่าได้
ก่อนจะเห็นสตรีงามนางหนึ่งมีผ้าคลุมที่ศีรษะยาวถึงไหล่และรอบๆมีทูตสวรรค์ล้อมตัว
ยืนอยู่ที่ก้อนหินหน้าทั้งสอง
“หนูกำลังทำอะไรอยู่หรือจ๊ะ สาวน้อยของฉัน” สตรีนั้นเอยทำลายความเงียบ
“พวกเรากำลังเก็บเกาลัดกันอยู่ค่ะ” ทั้งสองตอบไปด้วยความลังเล เธอคือใครกัน
“แล้วพอไหมจ๊ะ หนูขาดเหลืออะไรหรือเปล่า” สตรีผู้นั้นจึงถามตอบด้วยเสียงอันอ่อนโยน
“พวกเรามีมากพอเพื่อพระหรรษทานของพระเจ้าและแม่พระค่ะ”
“ฉันคือแม่พระเอง” สตรีผู้นั้นยิ้มและกล่าว
“แล้วแม่ มาทำอะไรในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้ละค่ะ” ทันทีพวกเธอรู้แล้วว่าเบื้องหน้านี้คือพระมารดาของพระเจ้า
ทั้งสองจึงคุกเข่าลง พลางรวมรวบความกล้าแล้วถามพระมารดา
“แม่ไปทุกที่ที่คนบาปจะได้กลับใจ พระบุตรของแม่เป็นที่รังเกียจพฤติกรรมของมนุษย์และตัวแม่เองนี้ได้กันท่าตะโกนว่า
โปรดเมตตา โปรดเมตตา โปรดเมตตาเถิด” แม่พระจึงทรงเผยถึงจุดประสงค์การมาครั้งนี้ด้วยท่าทีที่ชัดเจนและเคร่งครัด
“ลูกจะได้เห็นเปลวไฟอันอันตรายเลือนลงมาจากท้องฟ้า
ลูกจะได้เห็นแผ่นดินไหวในวันฉลองนักบุญอันตน อธิการ ลูกจะพบกับพายุร้ายที่จะทำลาบไร่นาและถนนหนทาง
มันจะถอนรากถอนโคนต้นไม้ ทำลายอาคารและสะพาน นอกจากนี้คูร์จะถูกทำลายจนย่อยยับ แม่ขอประกาศว่าถ้าคนบาปยังไม่กลับใจ
ลูกไม่ปฏิบัติกิจอย่างระวังอย่างดีในวันหยุด หรือลูกไม่สวดภาวนาและเป็นทุกข์ถึงบาปแล้วละก็
พระพิโรธอันน่ากลัวของพระบุตรจะลงโทษมนุษย์” พระนางทรงย้ำอีกครั้งก็จะหายลับจากสายตาของทั้งสองไป
หลังจากนั้นวัดไม้ก็ถูกสร้างขึ้นไม่นาน
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอิฐซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1598 จนถึง ค.ศ.1603 วัดหลังใหม่นี้ได้รับการเปิดเสกอย่างงดงามในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ.1615 ส่วนก้อนหินที่แม่พระประจักษ์มาก็ยังคงอยู่ ณ
ใต้พระแท่นบูชามิสซาในปัจจุบัน
รายล้อมไปด้วยภาพเขียนอันงดงามที่เล่าเรื่องราวของแม่พระตั้งแต่การบังเกิด หรือ แม่กระทั้งภาพการย้ายบ้านแห่งโลเรโต
แม้จะมิได้รับคำรับรองแต่อัศจรรย์มากมายก็บังเกิด ณ ที่นี่ เหมือนที่แม่มาที่ลูร์ด ที่ฟาติมา
บทภาวนาแม่พระ แห่ง ความเมตตา แห่ง กัลลีวัจโจ
โอ้
พระแม่แห่งพระเมตตา ทั้งแสนดีและเห็นอกเห็นใจ ผู้ประจักษ์มาที่กัลลีวัจโจ ลูกขอกราบกรานต่อหน้าการสถิตอยู่ของพระแม่ขอพระแม่เติมเต็มความสุภาพและความร้อนรนในการสวดภาวนาเพื่อทั้งความตั้งการและความตั้งใจของลูกทั้งหมด
ทั้งฝ่ายจิตและฝ่ายกาย
โอ้
พระแม่แห่งพระหรรรษทาน มารดาแห่งความเมตตา โปรดพิทักษ์รักษาลูกจากคุกคามของหมู่มารและกางกรรับลูกในเวลาแห่งความตายด้วยเทอญ
(วันทามารีย์ 3
บท)
สักการสถานตั้งอยู่ที่
กัลลีวัจโจ จ.ซอนดริโอ แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี
ตารางมิสซาวันหยุดและวันอาทิตย์
มิสซาเวลา 10.30 น.
สวดสายประคำเวลา
16.30 น.
มิสซาอีกครั้งเวลา
17.00 น.
วันธรรมดา
สวดสายประคำเวลา
16.30 น.
มิสซาเวลา 17.00 น.
“ข้าแต่แม่พระ แห่ง ความเมตตา แห่ง กัลลีวัจโจ ช่วยวิงวอนเทอญ”
ข้อมูลอ้างอิง