วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระมารดาผู้เมตตา แห่ง กัลลีวัจโจ


แม่พระ แห่ง กัลลีวัจโจ หรือ แม่พระ แห่ง ความเมตตา
Madonna di Gallivaggio

ตามถนนเส้น SS36 ที่ลัดเลาะไปตามหุบเขาทางตอนเหนือของอิตาลี เมื่อตัวรถขับข้ามสะพาเหล็กที่ทอดตัวข้ามหุบผา มันก็เผยให้เห็นยอดหอระฆังสีน้ำตาลอ่อน และตัววัดสีขาวขุ่นเพราะผ่านหนาวผ่านร้อนมานานมาพอดู ที่มีทรงเรียบง่ายแบบพื้นถิ่นอิตาลี พร้อมป้ายที่เขียนว่า สักการสถานแห่งกัลลีวัจโจ สักการสถานขนาดไม่ใหญ่ที่ลี้กายอยู่ในหุบเขาสูง ที่สร้างถวายเกียรติแด่แม่พระ



ที่ด้านหน้าของตัววัดสิ่งที่บ่งชี้ถึงแม่พระก็คือภาพเขียนเหนือประตูที่คือภาพของแม่พระขนาบด้วยเด็กสาวสองคนซึ่งตามตำนานเรียกเอทั้งสองว่า บุซเซตี และ จานอตตี โดยเรื่องเล่าสืบกันว่าในวันพุธ ที่ 10 ตุลาคม ..1492 ขณะเด็กสาวทั้งสองออกไปเก็บผลเกาลัดที่ตกจากต้นจนเหน็ดเหนื่อยจึงนั่งพักลงที่ก้อนหิน ทันทีดวงตาของทั้งสองก็ประสพกับแสงสว่างจร้าชนิดไม่สามารถหาสิ่งใดเทียบเท่าได้ ก่อนจะเห็นสตรีงามนางหนึ่งมีผ้าคลุมที่ศีรษะยาวถึงไหล่และรอบๆมีทูตสวรรค์ล้อมตัว ยืนอยู่ที่ก้อนหินหน้าทั้งสอง
หนูกำลังทำอะไรอยู่หรือจ๊ะ สาวน้อยของฉันสตรีนั้นเอยทำลายความเงียบ
พวกเรากำลังเก็บเกาลัดกันอยู่ค่ะ ทั้งสองตอบไปด้วยความลังเล เธอคือใครกัน
แล้วพอไหมจ๊ะ หนูขาดเหลืออะไรหรือเปล่า สตรีผู้นั้นจึงถามตอบด้วยเสียงอันอ่อนโยน
พวกเรามีมากพอเพื่อพระหรรษทานของพระเจ้าและแม่พระค่ะ
ฉันคือแม่พระเอง สตรีผู้นั้นยิ้มและกล่าว
แล้วแม่ มาทำอะไรในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้ละค่ะ ทันทีพวกเธอรู้แล้วว่าเบื้องหน้านี้คือพระมารดาของพระเจ้า ทั้งสองจึงคุกเข่าลง พลางรวมรวบความกล้าแล้วถามพระมารดา
แม่ไปทุกที่ที่คนบาปจะได้กลับใจ พระบุตรของแม่เป็นที่รังเกียจพฤติกรรมของมนุษย์และตัวแม่เองนี้ได้กันท่าตะโกนว่า โปรดเมตตา โปรดเมตตา โปรดเมตตาเถิด แม่พระจึงทรงเผยถึงจุดประสงค์การมาครั้งนี้ด้วยท่าทีที่ชัดเจนและเคร่งครัด
ลูกจะได้เห็นเปลวไฟอันอันตรายเลือนลงมาจากท้องฟ้า ลูกจะได้เห็นแผ่นดินไหวในวันฉลองนักบุญอันตน อธิการ ลูกจะพบกับพายุร้ายที่จะทำลาบไร่นาและถนนหนทาง มันจะถอนรากถอนโคนต้นไม้ ทำลายอาคารและสะพาน นอกจากนี้คูร์จะถูกทำลายจนย่อยยับ แม่ขอประกาศว่าถ้าคนบาปยังไม่กลับใจ ลูกไม่ปฏิบัติกิจอย่างระวังอย่างดีในวันหยุด หรือลูกไม่สวดภาวนาและเป็นทุกข์ถึงบาปแล้วละก็ พระพิโรธอันน่ากลัวของพระบุตรจะลงโทษมนุษย์ พระนางทรงย้ำอีกครั้งก็จะหายลับจากสายตาของทั้งสองไป



หลังจากนั้นวัดไม้ก็ถูกสร้างขึ้นไม่นาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอิฐซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี ค..1598 จนถึง ค..1603 วัดหลังใหม่นี้ได้รับการเปิดเสกอย่างงดงามในวันที่ 29 มกราคม ค..1615 ส่วนก้อนหินที่แม่พระประจักษ์มาก็ยังคงอยู่ ณ ใต้พระแท่นบูชามิสซาในปัจจุบัน รายล้อมไปด้วยภาพเขียนอันงดงามที่เล่าเรื่องราวของแม่พระตั้งแต่การบังเกิด หรือ แม่กระทั้งภาพการย้ายบ้านแห่งโลเรโต แม้จะมิได้รับคำรับรองแต่อัศจรรย์มากมายก็บังเกิด ณ ที่นี่ เหมือนที่แม่มาที่ลูร์ด ที่ฟาติมา 

บทภาวนาแม่พระ แห่ง ความเมตตา แห่ง กัลลีวัจโจ
โอ้ พระแม่แห่งพระเมตตา ทั้งแสนดีและเห็นอกเห็นใจ ผู้ประจักษ์มาที่กัลลีวัจโจ ลูกขอกราบกรานต่อหน้าการสถิตอยู่ของพระแม่ขอพระแม่เติมเต็มความสุภาพและความร้อนรนในการสวดภาวนาเพื่อทั้งความตั้งการและความตั้งใจของลูกทั้งหมด ทั้งฝ่ายจิตและฝ่ายกาย
โอ้ พระแม่แห่งพระหรรรษทาน มารดาแห่งความเมตตา โปรดพิทักษ์รักษาลูกจากคุกคามของหมู่มารและกางกรรับลูกในเวลาแห่งความตายด้วยเทอญ
(วันทามารีย์ 3 บท)


สักการสถานตั้งอยู่ที่

กัลลีวัจโจ จ.ซอนดริโอ  แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี

ตารางมิสซาวันหยุดและวันอาทิตย์

มิสซาเวลา 10.30.
สวดสายประคำเวลา 16.30 .
มิสซาอีกครั้งเวลา 17.00 .

วันธรรมดา

สวดสายประคำเวลา 16.30 .

มิสซาเวลา 17.00 .



ข้าแต่แม่พระ แห่ง ความเมตตา แห่ง กัลลีวัจโจ ช่วยวิงวอนเทอญ

ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...