วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การพบปะของมารดาผู้ทุกข์ทน


การพบปะของมารดาผู้ทุกข์ทน

ตามคำบอกเล่าของบุญราศีแอน แคทเทอรีน อัมเมอริก ภคินีชาวเยรมัน ผู้ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์

หลังจากนั้นแม่ผู้ทุกข์ใจก็ได้ออกจากศาล พร้อมกับยอห์นและสตรีอีกกลุ่มหนึ่ง ทันทีที่ประโยคอันอยุติธรรมได้ถูกประกาศขึ้น จากนั้นแม่ก็ได้ใช้เวลาตัวของแม่เองเดินตามสถานทรมานของพระบุตรและรินรดสถานที่เหล่านั้นด้วยหยาดน้ำตาของแม่ แต่เมื่อเสียงแตร การวิ่งของผู้คนและเสียงอึกทึกของม้าประกาศการเริ่มต้นของขบวนสู่กัลวาลิโอ แม่ก็ไม่สามารถที่จะอดกลั้นความปรารถนาของแม่ที่จะได้เห็นพระบุตรที่รักของแม่อีกครั้ง แม่ได้ขอร้องยอห์นให้พาแม่ไปยังสถานที่ที่พระบุตรทรงต้องผ่าน

ยอห์นจึงพาแม่ไปยังพระราชวัง ซึ่งมีประตูที่ถนนที่พระบุตรต้องตัดผ่านหลังพระองค์ทรงหกล้มครั้งแรก ดิฉันเชื่อว่าที่นั่นน่าจะเป็นที่อาศัยของมหาสมณะคายาฟาส ซึ่งมีศาลอยู่ตรงส่วนที่เรียกว่าซีโอน ที่นั่นยอห์นได้ขอและได้รับอนุญาตจากข้าราชการผู้ใจดีให้สามารถยืนอยู่ ณ ทางเข้ากับแม่และสหายของแม่



ในตอนนี้แม่ดูซีดเซียว ตาของแม่แดงกล่ำด้วยการร่ำไห้ แม่คลุมผ้าอย่างมิดชิดด้วยผ้าคลุมสีฟ้าเทา เสียงเอ็ดตะโรและดูถูกจากฝูงชนที่โกธรเกรี้ยวได้ยินมาแทบจะชัดถ้อยชัดคำ ผู้ส่งสารประกาศด้วยเสียงอันดังว่า เจ้าผู้ร้ายสามคนนี้กำลังจะถูกตรึงกางเขนแล้ว จากนั้นบ่าวรับใช้จึงเปิดประตูทันทีเสียงอันน่าสะพรึงกลัวก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้นทุกขณะ แม่ทิ้งตัวแม่คุกเข่าลง และหลังจากสวดภาวนาอย่างร้อนรน แม่จึงหันไปหายอห์นแล้วถามว่า แม่ควรจะอยู่ต่อดีไหม? หรือแม่ควรจะไปเลยเสียดีไหม? แม่จะมีพลังพอประคองตาได้หรือ?”  ยอห์นจึงตอบแม่ว่า ถ้าแม่ไม่อยู่จนเห็นพระองค์ผ่าน แม่จะเสียใจในภายหลังนะครับ

ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงยืนอยู่ที่ใกล้ประตู พร้อมสายตาที่จ้องมองไปที่ขบวนซึ่งยังอยู่ห่างนัก ที่ค่อยเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ จนเมื่อบรรดาผู้กำลังแบกเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อใช้ตรึงกางเขนเดินเข้ามาใกล้ แม่ก็ได้เห็นความอวดดีและสายตาแห่งชัยชนะของพวกเขา แม่ไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของแม่ได้ แม่ได้แต่พนมมือของแม่ราวกับวิงวอนขอความช่วยเหลือจากสวรรค์ หนึ่งในบรรดาทหารจึงได้กล่าวกับสหายของเขาว่า อะไรกันหรือที่ทำให้หญิงผู้นี้คร่ำครวญกันเล้า สหายเขาจึงตอบไปว่า อ้อ หล่อนคือแม่ของเจ้ากาลิลีน่ะ



เมื่อเจ้าคนโหดร้ายที่ช่างห่างไกลจากคำว่าเห็นใจเสียนี่กระไรได้ยินดังนั้นแล้ว พวกเขาก็เริ่มการละเล่นกับความเศร้าของแม่ พวกเขาชี้ไปที่แม่ หนึ่งในนั้นได้เอาตะปูสำหรับตอกพระบุตรกับไม้กางเขนไปถวายแม่อย่างดูถูก แต่แม่เบือนหน้าหนี ไปมองแต่พระบุตรของแม่ที่กำลังใกล้เข้ามาทุกที พลางยันตัวแม่กับเสาเพื่อค้ำตัวแม่ไว้ ด้วยเกรงว่าแม่อาจเป็นลมอีกครั้งจากความเศร้าโศก ในตอนนี้แก้มของแม่ดูซีดเซียวเหมือนคนตาย ริมฝีปากก็แทบจะเป็นสีฟ้าอยู่แล้ว

พวกฟาริสีขี่ม้าผ่านไปตามไปด้วยเด็กชายที่ถือคำจารึกเอาไว้ จากนั้นจึงเป็นพระบุตรที่รักของแม่ พระองค์ถูกกดพระวรกายลงด้วยน้ำหนักของไม้กางเขน ที่พระเศียรของพระองค์ยังคงมีมงกุฎหนาม ทรงหลบพระเนตรของพระองค์ลงเพราะความเจ็บปวดที่ไหล่ พระองค์ทรงทิ้งลักษณะของความเห็นใจและความเศร้าโศกลง ณ แม่ ทรงเดินอย่างโซซัดโซเซ และทรงหกล้มลงเป็นครั้งที่สองด้วยพระหัตถ์แลพระชานุของพระองค์



ตอนนี้แม่บรรลุถึงความทุกข์ทรมานอย่างสมบูรณ์ แม่ลืมทุกๆสิ่ง แม่ไม่เห็นทั้งบรรดาทหารหรือเพชฌฆาตเลย แม่ไม่เห็นอะไรเลย แต่ด้วยความรักสุดจะพรรณนาต่อพระบุตร แม่ได้ออกจากประตูแล้วฝ่าเข้าไปท่ามกลางฝูงชนที่ต่างพากันดูถูกและเหยียดหยามพระบุตรของแม่ และคุกเข่าลงพลางสวดกอดพระองค์อยู่ข้างๆพระองค์ คำเดียวที่ดิฉันได้ยินคือ ลูกรัก และ แม่ แต่ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่าคำพูดเหล่านี้จะจริงไหม บางทีมันอาจเกิดจากใจของดิฉันเองก็ได้

ชั่วขณะเกิดความสับสนไปทั่ว ยอห์นและพรหมจารีศักดิ์สิทธิ์พยายามจะพยุงแม่ขึ้นมาจากพื้น จากนั้นแม่จึงถูกพลยิงธนูต่อว่าแม่ หนึ่งในพวกเขาพูดว่า แกจะทำอะไรที่นี่ หญิงเอ๋ย มันจะไม่ต้องตกอยู่ในกำมือของเรา ถ้ามันได้รับการสั่งสอนให้ดีกว่านี้ มีทหารไม่กี่คนที่มองเหมือนล่วงเกิน ถึงแม้พวกเขาจำเป็นต้องกันแม่ให้กลับไปที่ประตู ไม่มีใครประคองมือแม่ไว้เลย จากนั้นขณะยอห์นและสตรีรายล้อมแม่ก็ล้มลงเพราะเป็นลมใกล้หินที่อยู่ใกล้ประตู จนทำให้เกิดรอยฝ่ามือของแม่ขึ้น หินนั้นแข็งมากๆ และมันถูกย้ายออกไปอยู่ที่วัดหลังแรกของเยรูซาเล็มใกล้สระเบธไซดา เมื่อนักบุญยากอบ องค์เล็ก เป็นพระสังฆราชของเมือง จากนั้นสาวกสองคนที่อยู่กับแม่จึงอุ้มแม่เข้าไปในบ้านและประตูก็ถูกปิดลง


ข้าแต่พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...