นักบุญโยเซฟ ไฟรนาเดเมตซ์
St. Josef
Freinademetz
ฉลองในวันที่ : 29 มกราคม
เรื่องราวสุดอัศจรรย์เริ่มขึ้นในบ้านกึ่งไม้กึ่งปูนเรียบง่ายในหมู่บ้านออยส์
หมู่บ้านเล็กๆที่บ้านเพียงห้าหลัง เมืองบาดีอา เมืองที่เล่นกายอยู่ภายใต้เทือกเขาแอลป์ในส่วนที่ชื่อว่าโดโลมีตี
สีเขียวขจีดั่งหยกชั้นเลิศ ในจังหวัดปกครองตนเองโบลซาโน หรือ
ในภาษาเยอรมันกับละดินของคนท้องถิ่นนี้จะเรียกว่า “ซุดทิรอล”
เมื่อเด็กชายตัวน้อยได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรกในครอบครัวของโยฮัน มัทเทียส
ไฟรนาเดเมตซ์ กับ อันนา มารีอา ซอตต์วัลกีอาไร
ทารกได้รับศีลล้างบาปด้วยนามตามภาษาละดินว่าอูโยบ
หรือ โยเซฟ ในวันเดียวกันกับวันที่เกิดคือวันที่ 15 เมษายน ค.ศ.1825 ท่านเป็นบุตรคนที่สี่จากสิบสามคนของครอบครัวที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านออยส์
เมืองบาลีอา จังหวัดปกครองตนเองโบลซาโน อาณาจักรฮังการี(ปัจจุบันคือภาคเหนือของประเทศอิตาลี)
ท่านเติบโตขึ้นมาท่ามกลางมรดกล่ำค่าของครอบครัวคือความเชื่ออันเรียบง่าย
มีการสวดภาวนาทุกๆวัน และลงไปมิสซาที่วัดนักบุญลีโอนฮาร์ดในวันอาทิตย์
หลังจากนั้นเมื่อเจริญวัยขึ้นอีกท่านก็เข้าบ้านเณรที่เบรซซาโนเน
ซึ่งระหว่างศึกษาอยู่ที่นั่นท่านก็เริ่มคิดอย่างจริงจังว่างานธรรมทูตนั้นคือแนวทางของท่าน
ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ในวันที่ 25 กรกฎาคม
ค.ศ.1875 และถูกส่งไปประจำที่วัดนักบุญมาร์ติน เด โตร ใกล้ๆบ้านของท่าน
ซึ่งในไม่ช้าท่านก็ครองหัวใจสัตบุรุษทุกคน
อย่างไรก็ตามกระแสเรียกการเป็นธรรมทูตก็มิได้หายไปไหน
เพียงสองปีหลังจากรับศีลบวช ท่านก็ได้ติดต่อนักบุญคุณพ่ออาร์โนลด์ ยานซึน
ผู้ก่อตั้งคณะวจนาตถ์ของพระเจ้า และเมื่อได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชแล้ว
ท่านก็ได้เป็นสมาชิกคณะวจนาตถ์ของพระเจ้าที่บ้านในสเตย์ล ประเทศเนเธอร์แลนด์
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.1878 หลังจากนั้นในวันที่ 2 มีนาคม
ค.ศ.1879 ท่านก็ถูกเลือกให้ไปเป็นธรรมทูตในประเทศจีนพร้อมคุณพ่อโยฮัน
บัพทิสท์ ฟอน อันซาร์ และมาถึงฮ่องกงในห้าสัปดาห์ถัดมา
พร้อมอยู่ที่นั่นต่ออีกสองปีเพื่อเตรียมตัว
ก่อนในปี ค.ศ.1881 ท่านและคุณพ่อโยฮันจึงเดินทางไปทำงานอภิบาลที่ตอนใต้ของมณฑลชานตุง
จังหวัดที่ประชากรถึงสิบสองล้านคน เป็นคริตชนอยู่ 158 คน มันเป็นที่ลำบากที่ถูกทำเครื่องหมายไว้ด้วยเวลายาวนาน
การเดินทางอันแสนยากลำบาก การถูกทำร้ายจากโจร
และการก่อร่างสร้างชุมชนคริสตชนเป็นครั้งแรกอย่างยากลำบาก
อย่างไรท่านก็ยกย่องความสำคัญของความมุ่งมั่นของฆราวาส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูคำสอน เพื่อประกาศข่าวดีเป็นครั้งแรก
ท่านทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการพัฒนาพวกเขาและจำทำหนังสือคำสอนภาษาจีน
ขณะเดียวกันท่านก็ร่วมมือกับคุณพ่อโยฮันในการพยายามเตรียมความพร้อม
สำหรับการก่อตัวของจิตวิญญาณและการศึกษาอย่างต่อเนื่องของพระสงฆ์ชาวจีนและธรรมทูตคนอื่นๆ
“ผมจะเป็นชาวจีนในสวรรค์” ทั้งชีวิตของท่าน ท่านพยายามที่จะกลายเป็นชาวจีนในหมู่ของชาวจีน
มากเสียจนท่านเขียนถึงครอบครัวว่า “ผมรักประเทศจีนและชาวจีน ผมต้องการตายท่ามกลางพวกเขาและพักผ่อนในเวลาที่เหลือท่ามกลางพวกเขา” ในปี ค.ศ.1898 จากผลของการทำงานหนักและความยากลำบากต่างๆ
ท่านก็เกิดป่วยด้วยโรคกล่องเสียงอักเสบ อันเป็นจุดเริ่มต้นของวัณโรค
ท่านจึงถูกส่งไปประเทศญี่ปุ่นตามคำร้องของของบรรดานักบวช เพื่อรักษาตัว ก่อนกลับมาทั้งๆที่ยังไม่หายขาด
ต่อมาเมื่อพระสังฆราชโยฮันต้องเดินทางออกจากประเทศจีนในปี
ค.ศ.1907 ท่านก็มีหน้ามากขึ้นในการบริหารสังฆมณฑล
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ก็ได้มีการระบาดครั้งใหญ่ของไข้รากสาดใหญ่ขึ้น
ท่านในฐานะนายชุมภาบาลที่ดีก็ได้ทำงานอภิบาลอย่างไม่ย่อท้อ
ท่านเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆจนท่านเองติดเชื้อ ท่านจึงกลับไปไตเกี๋ย เมืองจินหนิง ตอนใต้ของมณฑลซานตง
และถึงแก่มรณกรรมอย่าสงบด้วยวัย 55 ปี ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ.1908
ท่านเรียนรู้ที่จะค้นพบความยิ่งใหญ่และความสวยงามของวัฒนธรรมจีนและความรักต่อผู้คนที่เป็นเป้าหมายที่ท่านถูกส่งมา
ท่านอุทิศชีวิตของท่านทั้งครบเพื่อการถึงข่าวดีของความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์ทุกๆคน
และรวบรวมความรักนี้ในรูปแบบของชุมชนคริสตชนชาวจีน
ท่านขับเคลื่อนชุมชนนี้ด้วยการเปิดตัวเองให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับทุกคนรอบๆ
ท่านสนับสนุนคริสตชนชาวจีนจำนวนมากในการเป็นธรรมทูตในหมู่ชาวจีนด้วยกันผ่านการเป็นครูคำสอน
นักบวช พระสงฆ์และซิสเตอร์ ชีวิตของท่านเป็นไปตามคำขวัญของท่าน คือ “ภาษาที่ทุกคนเข้าใจคือภาษาของความรัก”
ร่างของท่านถูกฝังที่สถานพระมหาทรมานที่
12 ในการเดินรูปที่ไตเกี๋ย ประเทศจีน
หลังจากนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาปอล ที่ 6
ก็ได้ทรงแต่งตั้งท่านเป็นบุญราศีหลังจากนั้นพร้อมกับบุญราศีอาร์โนลด์ผู้ก่อตั้งคณะท่านก็ได้รับการบันทึกนามในสารบบนักบุญของพระศาสนจักรเมื่อวันที่
5 ตุลาคมปี ค.ศ.2003 โดยนักบุญสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2
“ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย”(1ยอห์น 4:11) พระเจ้าทรงรักเรามากแค่ไหน
ก็มากพอจะทรงส่งพระบุตรลงมาเป็นค่าไถ่เพื่อไถ่เราให้รอดไงละ
พี่น้องดังนั้นมันจะไม่ดีหรือที่เราจะนำความรักไปยังคนรอบข้างของเรา
ความรักที่พระให้เรามากมาย รักแบบจริงใจ รักอย่างที่เขาเป็น เช่นท่านที่รักคนจีนอย่างที่คนจีนเป็น
ไม่ได้รักเพราะอย่างอื่น
ความรักนี้แหละเป็นภาษาที่ทุกคนเข้าใจได้ไม่ว่าจะยากดีมีจนหรือชาติไหนเหมือนคติของท่าน
ดังนั้นเราต้องพกความรักไว้ในกระเป๋าของเราเสมอ เพื่อให้พร้อมมอบแด่ทุกคน
ให้ทุกคนได้สัมผัสความรักของพระเจ้า และร้องสรรเสริญพระองค์ว่า อัลเลลูยา
อัลเลลูยา
“ข้าแต่ท่านนักบุญโยเซฟ ไฟรนาเดเมตซ์
ช่วยวิงวอนเทอญ”
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.heiligenlexikon.de/BiographienJ/Josef_Freinademetz.html