วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"เอาเบรทินา" เด็กหญิงผู้ศักดิ์สิทธิ์เกินวัย



บุญราศีเอาเบรทินา เบรเคนบร๊อก
Bl. Albertina Berkenbrock
ฉลองในวันที่ : 15 มิถุนายน

เอาเบรทินาของเราคือ คำพูดที่ชาวสังฆมณฑลตูบารอง (Tubarão) เรียกเด็กสาววัย 12 ปี ที่ถูกฆ่าตายเพียงเพราะต้องการรักษาพรหมจรรย์ เช่นเดียวกับนักบุญมารีอา กอเร็ตตี ที่ ประเทศอิตาลี เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว

เอาเบรทินา  เป็นบุตราสาวของตระกูลเบรเคนบร๊อก ตระกูลอันมีฝั่งบิดาเป็นชาวเยอรมัน ที่อพยพมาอยู่ที่ประเทศบราซิล ท่านเกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายน ค..1919  ในหมู่บ้านเล็กๆนามเซา หลุยส์ รัฐซันตากาตารีนา ภาคใต้ของประเทศบราซิล และได้รับศีลล้างบาปในวันที่ 25 พฤษภาคม ปีเดียวกัน บิดามารดาของท่านคือนายแฮร์มันน์ กับ นางโจเซฟินา เกษตรกร ท่านเป็นลูกหัวปลีจากทั้งหมดลูกเก้าคนของครอบครัว


ในวัยเด็กท่านเรียนรู้ที่จะภาวนาด้วยการอุทิศตนอย่างลึกซึ่ง เข้มแข็งในการปฏิบัติตามความเชื่อคาทอลิก ด้วยวัย 6 ปี ท่านได้รับศีลกำลัง ซึ่งนำไปสู่การแก้บาปครั้งแรกอันเป็นประตูสู่การแก้บาปบ่อยครั้ง  และ ศีลมหาสนิทครั้งแรก ในวันที่ 16 สิงหาคม ค..1928  ขณะท่านอายุได้ 9 ปีมันเป็นวันที่สวยงามที่สุดในชีวิตของฉันเลยละ

ท่านได้รับการปลูกฝังการอุทิศตนต่อแม่พระผู้ที่ท่านยกว่าเป็นผู้แนะวิญญาณและความรอดนิรันดร์ของท่านกับนักบุญหลุยส์ กอนซากา องค์อุปถัมภ์ของวัดซึ่งท่านยกเป็นรูปแบบของความบริสุทธิ์ ผ่านจากทางบ้านและวัด ท่านสวดสายประคำพร้อมครอบครัวทุกๆวัน  และหากคราใดที่คุณพ่อมาทำมิสซาที่หมู่บ้านแล้วละก็ ท่านก็จะไม่พลาดโอกาสในการร่วมมิสซาของคุณพ่อเสมอ


การศึกษาของท่านเริ่มจากครอบครัวที่ หลังจากนั้นพออายุถึงเกณฑ์ท่านก็ได้เข้ารับการศึกษาในระดับชั้นอนุบาล  ที่นั่นท่านเป็นที่ที่ยกย่องจากครูในโรงเรียนอนุบาลจากเรื่องฝ่ายวิญญาณและคุณธรรมที่เกินกว่าอายุของท่าน ซึ่งท่านนำมันมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา ท่านไม่เคยขัดสนที่จะถ่อมตัว เป็นเด็กดี แม้บางครั้งท่านจะถูกเพื่อนๆแกล้ง ท่านก็จะเพียบเงียบ ไม่ตอบโต้ใดๆ ไม่แม้แต่จะโกธรพวกเขาเลย นอกเหนือจากนั้นท่านยังเป็นคนตรงไปตรงมา เรียบง่าย โดยไม่ต้องเสแสร้งท่านรู้จักที่จะเลือกความสวยงามตามประสาผู้หญิงรวมทั้งการแต่งกายด้วยความเรียบง่ายและพอประมาณตลอด

ท่านเข้าใจพระบัญญัติของพระเจ้าผ่านการเรียนคำสอน โดยเฉพาะบัญญัติข้อที่ 6 ที่กล่าวว่า อย่าผิดประเวณี  แม้ท่านจะเยาว์วัยนักแต่ท่านก็ปฏิบัติกิจเมตตาที่ใหญ่เกินตัวของท่านมากๆ  ด้วยวิธีง่ายๆ ตามประสาเด็ก ท่านเล่นและแบ่งปันขนมปังจากบ้านให้เด็กที่ยากไร้กินในโรงเรียน  เช่นเดียวกันกับที่โรงเรียนที่บ้าน ท่านก็คอยดูแลลูกจ้างผิวดำคนหนึ่งกับลูกๆของเขาทั้งทางด้านอาหารหรือบันเทิงที่ทำให้พวกเขามีความสุข  ท่านอุ้มลูกๆของเขาบ้าง หอมแก้มบ้าง เป็นต้น


กระนั้นหน้าที่ลูกที่ดีของพ่อแม่ของท่านก็ไม่บกพร่องทั้งการทำงานบ้านและสวน  ซึ่งท่านทำมันด้วยอ้อนน้อมถ่อมตน เชื่อฟัง กตัญญู ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย รับผิดชอบ อดทนและเสียสละอันเป็นคุณลักษณะของท่าน แม้บ้างครั้งจะถูกน้องชายแกล้ง ท่านก็จะเงียบและเข้าร่วมในพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้าผู้ที่ท่านรักอย่างสุดใจ และเช่นเด็กทั่วไปท่านก็มีกิจกรรมที่ท่านชอบ นั่นก็คือการทำไม้กางเขนอันเล็กๆจากไม้ ไปปักไว้ตามหลุมน้อยๆที่ประดับด้วยดอกไม้ที่ท่านทำ

ทุกอย่างยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ  ดอกไม้น้อยๆของพระเจ้าก็เช่นกัน จนกระทั้งในวันที่  15 มิถุนายน ค..1931 ตามคำสั่งของบิดามารดา ท่านซึ่งตอนนี้เติบโตเป็นเด็กสาววัย 12 ปี ที่มีผมสีบลอนด์น้ำตาล ดวงตาสีเขียวเข้ม ตัวสูงแข็งแรงเช่นเด็กสาวบ้านไร่  ก็จำต้องออกเดินตามหาวัวที่หายไปของครอบครัวไปตามที่ต่างๆ พรางร้องตะโกนเรียกชื่อมัน ปินตาโด ปินตาโด ปินตาโด ซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งท่านเดินไปพบ มาเนโก ปาลิวซา (Maneco Palhoça) ลูกจ้างผิวดำที่ท่านคอยช่วยดูแลลูกๆของเขา


ครั้งแรกท่านเข้าใจว่าคือวัวที่หายไป ท่านจึงรีบวิ่งมาและพบว่ามันไม่ใช่วัวของท่าน แต่กระนั้นที่ใกล้กันๆท่านก็พบมาเนโก กำลังขนถั่วขึ้นเกวียนอยู่ท่านจึงได้รับเข้าไปถามหาวัวที่หายไปของท่าน ด้วยความใคร่เป็นทุนเดิม เขาจึงชี้หลอกท่านไปในสถานที่ที่เขาจะบรรลุเป้าหมายของเขาเอง ด้วยใจที่คิดว่า หากเอาเบรทินาไม่ยอม เราจะมีดนี้ละ

ด้วยความไว้วางใจเขา ท่านจึงไปตามที่เขาบอกในป่า กรอบ แกรบ เสียงใบไม้แห้งถูกเหยียบดังขึ้นฉุดให้ท่านที่กำเดินอยู่ต้องหันมาด้วยใจที่คิดว่านั่นต้องเป็นวัวแน่ๆเลย แต่ผิดถนัดเพราะภาพที่ปรากฏต่อสายตาของท่านนั้นมันทำให้ท่านถึงกลับตัวแข็งเป็นหิน มันไม่ใช่อะไรเลย คือ มาเนโก ที่แอบตามท่านมาเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขาต่างหากละ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเขาจึงได้แจ้งความต้องการของเขากับท่านเสีย

ใช่แล้ว เขาต้องการพรากพรหมจรรย์ของท่าน สิ่งที่ท่านหวงแหน ด้วยดวงใจที่แน่วแน่ของท่านท่านตอบปฏิเสธคำขอของเขา เพราะ ท่านตระหนักดีว่ามันเป็นบาป เมื่อไม้อ่อนไม่ได้ผล เขาก็ตัดสินใจใช้กำลังบังคับท่านแทน แต่ท่านงั้นหรือจะยอม ท่านทั้งเตะทั้งต่อยเขาสุดแรงด้วยกำลังสาวบ้านไร่ การต่อสู้ของท่านดำเนินไปเป็นระยะเวลานานด้วยความหวาดเสียว แต่แล้วท่านก็พลาดล้มและตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา กระนั้นท่านก็ยังคงขัดขืนเขา เถียงเขา จนที่สุดเขาก็แพ้ทางศีลธรรมของท่าน แต่ด้วยความเครียดแค้นเขาก็ตัดสินใจคว้าผมท่านขึ้นมาและจับท่านปาดคอเสีย ณ ตอนนั้นเลย

หลังจากที่ลงมือฆ่าท่านเรียบร้อยแล้ว มาเนโก ก็ได้ซ่อนมีดของเขาที่ใต้เกวียน ก่อนทำทีไปบอกกครอบครัวของท่านว่าพบศพท่านนอนจมกองเลือด ทุกคนจึงรีบผละจากงานไปยังที่เกิดเหตุและพบร่างของท่านนอนแน่นิ่ง ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยสันติสุขแห่งสวรรค์ มาเนโก ใครฆ่าเอาเบรทินา คำถามถูกยิงไปที่มาเนโก มันเป็นคนผิวดำ มีเครา สวมหมวกฟาง เขาตอบอย่างแนบเนียน


ข่าวท่านถูกฆ่าตายทำให้ชุมชนเงียบสงบอย่างเซา หลุยส์ กลายเป็นอึกทึกไปด้วยเสียงม้าวิ่งของเหล่าชายอาวุธครบมือนำโดยบิดาของท่าน ที่พากันออกตามหาเจ้าฆาตกรร้ายไปทั่วทิศ จนกระทั้งกองตามล่าไปพบกับยวง คาดินโฮ (João Cândido) ที่กำลังกำจัดวัชพืชอยู่ พวกเขาก็เข้าใจว่านั้นแหละคือไอ้เจ้าฆาตกรร้ายและยิ่งแน่ใจยิ่งขึ้นเมื่อมาเนโกย้ำว่า มันนี่ละเป็นคนฆ่าเอาเบรทินา

ทำให้ยวง ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยถูกประณามว่ามันนี้แหละคือไอ้ฆาตกรใจทราม แม้นว่าเขาจะพูดความจริงแค่ไหนก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลยซักคน เขาถูกลากมาเรื่อยจนถึงศพของท่าน ผมไม่เคยเห็นเธอคนนี้เลย เขากล่าวแต่เหมือนจะไร้ผล เขายังคงถูกนำไปขังไว้ในโรงนาที่มีเวรยามอีกตลอดคืนจนกว่าตำรวจจะเดินทางมาถึง


ตอนนี้ทุกอย่างกับมาเป็นเดิม ความโกธรเริ่มบรรเทาลง คงเหลือแต่หยาดน้ำตาของความเศร้าที่ไหลเออดวงตาของผู้เป็นมารดาอย่างโจเซฟินา น้ำตาที่กลั่นจากใจ ไม่ต้องเศร้านะแม่ ลูกไปดีแล้ว เราก็จับคนร้ายได้แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตำรวจก็จะมารับมันไปรับกรรมของมันเอง แม่อย่างร้องเลยนะ แฮร์มันน์กล่าวพลางโอบภรรยาของเขาไว้ใกล้ๆ

สวรรค์ย่อมมีตา ทำสิ่งใดไว้ย่อมปิดบังมิมิด เช่นกันแม้จะจับคนร้ายได้แล้วก็ตาม แต่ไม่นานนักความสงสัยในใจของใครหลายคนก็เริ่มผลุดขึ้น ไม่ หรือมาเนโกจะเป็นฆาตกร? ทำไมกันละ?” เพราะเขาเข้าๆออกๆห้องที่ไว้ร่างของท่านเกือบทุกๆชั่วโมง และทุกๆครั้งไปแผลที่ลำคอของท่านก็จะปรากฏมีเลือดไหลซึมออกมาเสมอ ความสงสัยยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยตลอดทั้งคืน มาเนโกก็เริ่มวางแผนหลบหนีของเขาเช่นกัน


สองวันหลังจากนั้นนายอำเภออิมารี (Imaruí) ก็เดินทางมาถึงเพื่อยับยั้งเหตุการณ์ เขาได้นำตัวของยวงผู้ถูกกล่าหากับไม้กางเขนไปที่บ้านของท่าน ที่มีร่างซึ่งยังมีเลือดที่ลำคอยังคงไหลซึมอยู่ของท่าน ก่อนนำไม้กางเขนวางลงที่หน้าอกของท่าน พร้อมสั่งให้ยวงคุกเข่าและวางมือสาบานบนไม้กางเขนว่าเขาบริสุทธิ์จริง ฉับพลันเลือดที่ไหลซึมอยู่ของท่านก็หยุดลงอย่างน่าอัศจรรย์ ทันทีเมื่อเป็นเช่นนั้นมาเนโกที่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ก็รีบวิ่งออกไป

มันทำให้ความกระจ่างแก้ข้อสงสัยทุกอย่าง จับเขา!” สิ้นเสียงชายทุกคนที่อยู่ที่นั่นพากันรีบวิ่งออกไปตามล่าหาไอ้ฆาตกรตัวจริง ที่สุดพวกเขาก็พบเขา ทำให้ที่สุดคดีของท่านจึงคลี่คลายลง มาเนโกถูกจับและรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าท่านเอง หลังจากนั้นเขาก็ถูกส่งลากูนา ที่นั่นเขาถูกตัดสินและถูกจำคุกและสิ้นใจในเรือนจำแห่งนั้นเอง


ร่างน้อยๆของท่านเมื่อหมดหน้าที่แล้วก็ถูกฝังตามพิธีในวันเดียวกันคือวันที่ 17 มิถุนายน ท่ามกลางเม็ดฝนที่ตกจากนภา ณ ใจกลางสุสานของหมู่บ้าน จากนั้นจึงมีการเปิดกระบวนการของแต่งตั้งท่านเป็นนักบุญในปี ค..1952 แต่ก็ต้องล่าช้าไป กระนั้นในรัชสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ข้ารับใช้พระเจ้าเอาเบรทีน่า ก็ได้รับการบันทึกนามในสารบบุญราศีในฐานะพรหมจารีย์ มรณสักขี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค..2007 และล่าสุดในงานเยวชนโลกประจำปี ค..2013 ท่านก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในองค์อุปถัมภ์ของงานนี้พร้อมผู้ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายท่าน

ท่านเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของเยาวชนคริสตชนที่ดี แม้ท่านจะมีวัยที่น้อยนักแต่วิญญาณของท่านกับถูกประดับไปด้วยคุณธรรมต่างๆ  ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคุณธรรมในด้านการให้อภัย ท่านไม่เคยถือโทษเพื่อนที่ล้อเลียนหรือน้องชายที่แกล้งท่านเลย ดังพระวาจาที่ว่า และท่านจงเมตตาต่อกัน มีใจเอ็นดูต่อกัน และอภัยโทษให้กันเหมือนดังที่พระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้ท่านในพระคริสต์นั้น (เอเฟซัส 4:32)  การให้อภัยคือสิ่งที่ดีที่สุด แม้บางครั้งมันก็ยากที่จะทำ แต่ก็ไม่มีอะไรยากเกินกำลังหรอกถ้าเราพยายามไปพร้อมกับพระเจ้า ทำทุกสิ่งด้วยความวางใจ วางใจและวางใจ 



ข้าแต่ท่านบุญราศี เอาเบรทีน่า เบรเคนบร๊อก ช่วงวิงวอนเทอญ

ข้อมูลอ้าอิง


'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน ผู้ใหญ่ในคณะคนแรก ๆ ที่ท่านแสวงหา...