วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556

จากชีลับสู่มิชชันนารี "บุญราศีมาเรีย อิเนส เทเรซา"


บุญราศีมาเรีย อิเนส เทเรซา แห่ง ศีลมหาสนิท
Bl. María Inés Teresa del Santísimo Sacramento
ฉลองวันที่ : 22 มิถุนายน

ท่ามกลางผู้คนมากมาย ในมหาวิหารแห่งกวาดาลูป เบื้องหน้ารูปภาพอัศจรรย์ของพระนางมารีย์แห่งกัวเดอลูปที่ประทานแด่นักบุญยวง ดิเอโก้ เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา เด็กชายรูปร่างอ้วนท่วมสวมเสื้อสูตรนอกสีครีมกับกางเกงสีดำ กำลังย่างก้าวเข้ามาท่ามกลางสายตาของประชาชนพร้อมกับภคินีสูงวัยและผู้ช่วยมิสซาอย่างละหนึ่ง ซึ่งถ้าหาก คุณมองดีๆแล้วคุณจะเห็นว่าภคินีสูงวัยคนนั้นแต่งกายด้วยชุดของคณะภคินีแคลร์ผู้ยากไร้ผู้แพร่ธรรมแห่งศีลมหาสนิท  และถ้าหากคุณลองมองดีๆอีกครั้งคุณก็จะเห็นว่าในมือของเด็กชายร่างท้วมจับอยู่นั้นคือพระธาตุของบุญราศีองค์ใหม่นี้  พวกเขาทั้งสามเดินไปพร้อมกันก่อนที่จะหยุดตรงบริเวณก่อนขึ้นพระแท่น ที่ตรงนั้นเด็กชายได้ส่งมอบพระธาตุแด่ภคินีคนนั้น ก่อนจะเดินต่อไปพร้อมกันเพื่อไปหาประธานในพิธีและจบลงด้วยการวางพระธาตุไว้บนแท่นสีแดงกำมะหยี่



ทุกคนอาจคงสงสัยว่าเด็กชายคนนั้นคือใคร แล้วทำไมเขาถึงได้รับสิทธิ์พิเศษขนาดนั้น ถ้าคุณอยากรู้ เราก็คงต้องย้อนไปในชุมชนเอล โรซิโอ ในเทกซัส ทางตะวันตกของเม็กซิโก ในสระว่ายน้ำของชุมชน เมื่อเด็กชายตัวน้อยวัยขวบครึ่งนามฟรานซิสโก ฆาวีร์ คาร์ริลโล กูซมาน พลัดตกลงไปในสระว่ายน้ำแล้วสลบไป ซึ่งเมื่อนำตัวมาพบแพทย์ แพทย์ก็วินิจฉัยว่าเขาไม่รอดแล้วเพราะไม่มีเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจของเขา

แต่ด้วยการเสนอคำวิงวอนผ่านทางคุณแม่มาเรีย อิเนส เทเรซา แห่ง ศีลมหาสนิท เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยที่ไม่มีอาการผิดปกติอะไร ดังนั้นเอง เขาจึงได้ไปยืนยันต่อหน้าพยานนับร้อยถึงการอัศจรรย์ที่คุณแม่มาเรียได้ทำต่อเขานี้ ใน พิธีสถาปนาคุณแม่มาเรีย อิเนส เป็นบุญราศี ณ มหาวิหารอันงดงามแห่งกวาดาลูป ในวันที่ 21 เมษายน ค..2012 แต่เอ แล้วใครกันเล่าคือคุณแม่มาเรีย อิเนส คำตอบของคำถามต่อไปนี้ก็คงต้อนเล่าย้อนต่อไป โดยเริ่มเรื่องดังนี้



ณ ช่วงกลางฝั่งตะวันตกในประเทศเม็กซิโก ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีรัฐเล็กๆรัฐหนึ่งนามว่า นายาริตซ่อนกายอยู่ และในรัฐนี้นี่เอง ในเมืองชื่ออิซตลัน เดล ริโอ สถานที่มีภูมิอากาศที่ร้อนชื้น อันเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวขนาดใหญ่ของนายเอวสตาคิวโอ อาเรียส อาร์โนนีซ กับนางดอนา มาเรีย เอสปิโนซา โลเปซ โปรติลโล หญิงสาวผู้ชาญฉลาด ว่องไว งดงาม และเป็นที่รักจากทั้งคนรวยและคนยากจน ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค..1904 เรื่องของเราก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อนางมาเรียได้ให้กำเนิดธิดา ซึ่งนับเป็นลูกคนที่ห้าจากทั้งแปดคนของครอบครัว ซึ่งในสองวันถัดมา ทั้งสองก็พาสมาชิกใหม่ไปรับศีลล้างบาปพร้อมให้นามเธอว่า มาเรีย มานูเอลา เด เฮซุส

หลังจากวันนั้นมาเด็กน้อยก็ได้รับการเลี้ยงดูขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศของคริสต์ศาสนา ท่านมีโอกาสได้เรียนหนังสือ เรียนคำสอน และได้รับความรัก การยอมรับจากทั้งครอบครัวและบรรดาเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน เพราะนิสัยร่าเริง ง่ายๆ และมีเมตตาของท่าน  ดิฉันไปไหนมาไหนกับครอบครัว เดินบ้างและเล่นบ้างกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน ซึ่งดิฉันชอบมองดูและชอบไปร่วมกับพวกเขา นอกนั้นเรื่องราวชีวิตในวัยเยาว์ของท่าน อีกหนึ่งเรื่องก็คือการย้ายไปเมืองต่างๆ เพราะการทำงานของบิดาท่าน ซึ่งในการย้ายครั้งหนึ่ง แผนการณ์ของพระเป็นเจ้าสำหรับชีวิตของท่านก็ค่อยๆได้รับการไขแสดง


ในเดือนพฤษภาคม ค..1924  ครอบครัวของท่านก็ตัดสินย้ายจากเมืองเตปิกไปยังเมืองโกลีมา ท่านได้บันทึกว่า ดิฉันสัมผัสได้ถึงบางสิ่งในวิญญาณของดิฉันซึ่งดิฉันไม่อาจจะเข้าใจได้ เวลาแห่งพระหรรษทานได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากนั้นไม่นานคือในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ท่านในวัย 20 ปี ก็ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบ บิดาท่านจึงพาท่านไปพำนักรักษาตัวที่เมืองกัวดาฮารา ดิฉันไม่ขอปฏิเสธเลยว่า ดิฉันกลัวจริงๆ ท่านเล่า และเมื่อใกล้เวลาจะกลับไปโกลีมา ท่านก็มีโอกาสได้หยิบยืมหนังสือบันทึกวิญญาณของนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูมาอ่านระหว่างทาง จากการอ่านหนังสือบันทึกวิญญาณ ดิฉันไม่เพียงแต่ค้นพบกระแสเรียกของดิฉันเท่า เพราะดิฉันยังค้นพบว่าพระเจ้าได้ทรงมีหนทางที่พิเศษมากไว้สำหรับดิฉัน


หลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือนให้หลัง ท่านก็มีโอกาสได้ไปร่วมชุมนุมเคารพศีลมหาสนิทแห่งชาติ ซึ่งในโอกาสนั้นเองท่านก็ได้พบกับช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งภายหลังท่านเรียกว่า ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง อันเป็นช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทได้สัมผัสหัวใจของท่าน (ในวันงาน)ดิฉันรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวของดิฉัน และอีกครั้งที่ในวัด ดิฉันเริ่มรู้สึกว่าทุกสิ่งล้วนเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยสำหรับดิฉัน ดั่งเวลาที่กำหนดไว้แล้วด้วยพระเมตตาอันมิรู้สิ้นสุดได้แปรเปลี่ยนดิฉัน และดิฉันเองก็ไม่อาจจะต้านทานมันไว้ได้ ข้าแต่พระเจ้า องค์ความรัก ลูกไม่อาจจะต้านทานเสียงเรียกของพระองค์ได้อีกต่อไป ดิฉันปรารถนาเพียงได้รักและมอบตนเองไว้กับพระเจ้า ความปรารถนาเดียวของดิฉันคือศีลมหาสนิท

แต่ในเวลานั้นก็ไม่มีใครได้ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์พิเศษนี้เลย นอกเสียจากท่านกับพระเป็นเจ้า เมื่อได้รับการเปลี่ยนแปลงแล้วดิฉันก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะรับทรมานไปพร้อมกับพระเจ้า ซึ่งไม่มีใครที่บ้านสังเกตเห็นเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในตัวดิฉัน และเพียงไม่นานในเวลาต่อมา คือในระหว่างวันที่ 8-12 ธันวาคม ปีเดียวกัน พระมารดาพระเจ้าก็ได้สัมผัสจิตใจของท่านอีก พระนางทรงปลอบโยนและแสดงความรักต่อดิฉันอย่างเหลือเฟือในหัวใจอันน่าสงสารของดิฉันจนไม่อาจจะต้านทานไว้ได้ ดิฉันไม่รู้จะพูดอย่างไรดี สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพระมารดากับดิฉัน

และแน่นอนความปรารถนาลำดับถัดมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงของท่านก็คือการเข้าอารามเหมือนอย่างนักบุญเทเรซาน้อย แต่ในปีเดียวกันกับที่เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในตัวท่านนั้นเอง สงครามกลางเมืองเม็กซิโกก็ได้อุบัติขึ้น เวลานั้นการเบียดเบียนคริสตชนเริ่มมีไปทุกหัวระแหงของประเทศ ดังนั้นชีวิตคริสตชนเม็กซิโกในสมัยนั้นจริงเป็นเรื่องยากมากๆ ท่านจึงจำต้องพักความฝันนี้ไปก่อน พร้อมเฝ้ารอวันที่จะมีโอกาสได้ทำมันอย่างใจจดใจจ่อและอย่างวางใจ



พระเจ้าทรงวางดิฉันไว้บนทางแห่งความอัปยศ และความเจ็บปวดภายในอย่างสาหัส เพราความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นของพระองค์ทั้งครบไม่อาจจะทำได้ในช่วงการเบียดเบียนศาสนาในเม็กซิโกระหว่าง ค..1926 - ..1931 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรั้งดิฉันไว้จากการมองหนทางใดๆ ดิฉันรู้ทางเดินของดิฉันแล้ว และดิฉันก็จะไม่ยอมละไปจากมันด้วย นอกนี้แล้วระหว่างเจริญชีวิตอย่างยากลำบาก ท่านก็ยังได้ตัดสินใจถวายตนเป็นยัญบูชาเพื่อความรอดของเม็กซิโกและโลกในวันสมโภชพระคริสตเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล ปี ค..1926


ท่านเฝ้ารอวันเวลาที่จะได้ถวายตนอย่างร้อนรน ปีแห่งการหลบซ่อนในบ้านของตัวเองนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะพระเจ้าผู้แสนดีได้ทรงตระเตรียมวิญญาณดิฉันให้พร้อมกับชีวิตแห่งการรำพึงภาวนาอย่างเข้มข้น ซึ่งเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวิญญาณดิฉัน และที่สุดในวันที่ 7 มิถุนายน ค..1929 ภายหลังจากการรอคอย ท่านจึงได้สมัครเข้าคณะกลาริสซากราเมนตารีอัส อารามอาเว มารีอา ในอารามของคณะที่ถูกเนรเทศไปที่เมืองลอส แองเจอลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ดิฉันสมัครเข้าคณะชีลับตามความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่จะเลียนแบบต้นแบบความเข้มแข็งของดิฉัน ท่านนักบุญองค์น้อยที่ฉันประทับใจ ท่านนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู


หัวใจของดิฉันเดินตามหลังพระองค์ ท่านได้รับเสื้อคณะในวันที่ 8 ธันวาคมปีเดียวกัน และได้เข้าพิธีปฏิญาณตนครั้งแรกในวันที่ 12 ธันวาคม ค..1930 ด้วยนามว่า ภคินีมาเรีย อิเนส เทเรซา แห่ง ศีลมหาสนิท ณ วัดนักบุญโทริบิโอ และในวันเดียวกันนั้นเอง ณ เบื้องหน้าพระรูปของสตรีผู้ประจักษ์มาฮวน ดิเอโก พระเป็นเจ้าก็ทรงเผยแสดงถึงอีกหนึ่งแผนการในชีวิตของท่าน

เมื่อในวันเดียวกันนั้นท่านได้ยินเสียงแม่พระกวาดาลูปตรัสกับท่านภายในวิญญาณว่า หากลูกเดินตามแผนงานของพระเจ้าที่จะทรงใช้ลูกไปในพันธกิจแห่งการประกาศข่าวดี แม่สัญญาว่าแม่จะคอยติดตามลูกไปทุกเวลา คอยใส่คำพูดโน้มน้าวใจที่ละมุนจิตละมุนใจไว้ที่ริมฝีปากของลูก และพระหรรษทานที่จำเป็น แม่ขอสัญญาว่า เดชะความดีของพระบุตรของแม่ จะอำนวยให้ผู้คนมาที่เกี่ยวข้องกับลูก แม้เพียงฝ่ายจิต จะได้พระหรรษทานความศักดิ์สิทธิ์และความเพียรในวาระสุดท้าย แต่ท่านในวัย 26 ปี ก็ไม่อาจเข้าใจคำพูดเหล่านี้ กระนั้น ท่านก็ได้ถวายคำปฏิญาณตนเพิ่มอีกว่าจะมอบความรักต่อโลกทั้งใบ และจะเผยแพร่ความศรัทธาพิเศษต่อแม่พระแห่งกวาดาลูปให้แพร่ไปทั่วโลก


ท่านเข้าพิธีปฏิญาณตนตลอดชีพในวันที่ 14 ธันวาคม ค..1933 ภายหลังจากอารามได้ย้ายกลับมาที่ประเทศเม็กซิโกในปีนั้น และมีงานรับผิดชอบหลักในอารามคือการซักผ้ารีดผ้า งานซักรีด คืองานที่ดิฉันได้รับมอบหมายให้ทำเป็นเวลาหลายปี พระเยซูเจ้า คู่สมรสของดิฉัน ทรงช่วยให้ดิฉันเข้าใจวิญญาณจำนวนมาก แต่แม้นจิตใจของท่านจะสุขแค่ไหนที่ความฝันสำเร็จ แต่ภายในลึกๆท่านก็ปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะมอบชีวิตที่เหลือให้กับผู้ยากไร้และคนต่างศาสนา โดยมิใช่เพียงแค่สวดภาวนาและเสียสละตนซ่อนเล้นกายไว้หลังกำแพงของอาราม แต่คือการออกไปยังต่างถิ่นและประกาศข่าวดีจากพระวรสารเพื่อพิชิตใจดวงวิญญาณมากมายเพื่อพระเจ้า

ความปรารถนานี้นับวันก็ยิ่งทวีมากขึ้น และยิ่งสร้างความสับสนให้ภายใต้ใบหน้าที่สงบราบคาบนั้น วิญญาณของดิฉันเริ่มสงสัย ดิฉันมีความสุขมากในหมู่คณะของดิฉัน เพื่อนซิสเตอร์และคุณแม่อธิการต้องการดิฉัน และเบื้องหน้าของดิฉันก็มีแต่ความหวาดกลัว ท่านเฝ้าเพียรขอให้พระเยซูเจ้า สุดที่รักของท่านบอกกับท่านว่า พระองค์ทรงประสงค์สิ่งใด เพราะ ดิฉันปรารถนาทำเพียงเท่านั้น แต่แม้นจะจิตใจจะรุนเร้าด้วยไฟแห่งความสงสัยมากเพียงใด ท่านก็มิได้ขาดตกบกพร่องต่อหน้าที่ของท่านในอาราม นั่นคือการดูแลนวกะของอาราม นอกนั้นแล้วบรรยากาศอันสงบเงียบของอารามก็ทำให้ท่านพอคลายความกังวล และมีสันติได้บ้าง

กระทั้งที่สุดแล้ว วันหนึ่งท่านก็เข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าต่อชีวิตของท่าน นั่นคือการออกไปประกาศพระวรสาร เช่นนั้นเองท่านจึงได้นำเรื่องนี้แจ้งแก่ผู้ใหญ่ในคณะ และผลก็คือท่านได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามแผนงานของท่านนั่นคือการตั้งคณะได้  ดังนั้นเองท่านจึงเดินทางไปที่เมืองกูเอร์นาวากา เพื่อขออนมัติตั้งคณะใหม่ขึ้นกับพระคุณเจ้าฟรังซิสโก กอนซาเลส อารีอัส พระสังฆราชประจำสังฆมณฑล ซึ่งทันทีที่ได้ฟังท่าน พระคุณเจ้าอารีอัสก็เห็นด้วยกับโครงการนี้ และได้เป็นผู้ดำเนินไปยังสันตะสำนักในเดือนธันวาคมปี ค..1944 




ขั้นต่อไปก็ต้องมีอาราม ซึ่งครั้งแรกพี่ชายของท่านก็ได้เสนอขายที่ดินติดป่าให้ท่านในราคาครึ่งหนึ่งของราคาปกติ แต่ในเวลานั้นท่านก็ไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียวที่จะไปทำอะไรได้ กระนั้นท่านก็ไม่ได้ละความวางใจ ตรงกันข้ามท่านกับเชื่อแน่ว่านี่คือการลองใจจากพระญาณสอดส่องของพระเจ้า วันและเดือน ความทุกข์ ความสุข ความสงสัย ความหวาดวิตกผ่านไปภายใต้ความวางใจต่อพระเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าและการรอท่าอยู่รอบๆพระองค์

และแล้วในวันที่ 2 สิงหาคม ค..1945 สันตะสำนักก็อนุมัติให้ท่านเปิดบ้านที่เมืองกูเอร์นาวากาได้ แต่เวลานี้ท่านก็ยังหาที่ไม่ได้เลย ดังนั้นเอง ท่านจึงทูลกับพระเยซูเจ้าว่า ตอนนี้พระองค์ก็มีทุกอย่าง และก็สามารถตั้งคณะได้แล้ว แต่จะที่ไหนละ ที่บ้านไหน และเพิ่มการภาวนาให้ทวีมากยิ่งขึ้นไปอีก จนวันหนึ่งพี่ชายของท่านที่ชื่อ โฮเซ มาเรีย ก็เสนอจะยกบ้านหลังเล็กๆของเขาที่กูเอร์นาวากาให้คณะใหม่ของท่าน จึงทำให้ในวันที่ 21 สิงหาคม ปีเดียวกัน ท่านในวัย 41 ปี พร้อมซิสเตอร์จากอารามห้าคนที่สนใจก็ได้โบกอำลาคณะที่ท่านอยู่มาถึงสิบหกปี ท่ามกลางคำภาวนาและหยาดน้ำตา ดิฉันออกจากอารามอาเว มารีอาที่รักของดิฉันไปตลอดกาล




ที่บ้านคณะหลังใหม่ แม้จะไม่ได้กว้างใหญ่เท่าใดนัก ท่านก็จัดแจงวางพระแท่นที่งดงามซึ่งทำจากต้นซีดาร์ ตู้ศีลมหาสนิท และรูปแม่พระแห่งกวาดาลูปไว้ใกล้ๆกันอย่างสง่า ก่อนจะจัดให้พิธีมิสซาแรกในอารามหลังใหม่ที่ท่านตั้งนามว่า บ้านเยซูมารีย์ ขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม ปีเดียวกัน แต่นั้นมาคณะใหม่ของท่านก็ค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถขยายบ้านของคณะให้กว้างขึ้นตามแบบแผนที่ท่านวางไว้ โดยมีท่านเป็นผู้ดูแลไม่ว่าจะเป็นเรื่องการก่อสร้าง ยันเรื่องความเป็นอยู่ของคนงานว่าขาดตกบกพร่องอะไรบ้างไหม และไม่วายฉวยโอกาสเหล่านี้สอนคำสอนและพูดถึงเรื่องความรักของพระเจ้าให้พวกเขาฟัง

ในปี ค..1950 ท่านก็ได้ร่างธรรมนูญของคณะใหม่ ซึ่งได้รับการอนุมัติในวันที่ 22 มิถุนายน ปีถัดมาจากสันตะสำนัก ดังนั้นเองชื่อของ คณะธรรมทูตกลาริสแห่งศีลมหาสนิท จึงได้รับการจารึกไว้ในสารบบคณะนักบวชของพระศาสนจักร โดยมีท่านเป็นมหาธิการิณีคนแรกของคณะ


จิตตารมณ์ของธรรมทูตกลาริสคือความรักและความวางใจ เพียงแค่ระยะเวลาหกปี คณะใหม่ของท่านก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึงเก้าสิบสองคน และมีบ้านคณะเพิ่มอีกที่คือปูเอบลา ซึ่งภายหลังได้รับการรับรองคณะ ในวันที่ 14 สิงหาคม ท่านก็ได้พานวกะจากปูเอบลามายังกูเอร์นาวากา เพื่อเข้ารับการอบรม มาเถิด ลูกรัก พันธกิจกำลังรอเราอยู่ และก็ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเราได้ หลังจากนั้นในเดือนกันยายน ปีเดียวกัน ท่านก็ได้ส่งสมาชิกสี่คนไปทำงานที่ญี่ปุ่น แม้ในเวลานั้นท่านจะไม่มีเงินพอที่จะเป็นค่าใช้จ่าย แต่ท่านก็มอบความวางใจทั้งหมดไว้กับพระ และจัดเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

ลูกรัก อย่าได้คิดถึงตัวเอง พระเจ้าทรงสมควรได้รับทุกสิ่ง การมอบตนของพวกเราจะต้องไม่มีข้อจำกัดใดอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงทำเพื่อเราแต่ละคน จงมีจิตรารมณ์แห่งการภาวนา จิตารมณ์ของชีวิตภายใน จงระลึกถึงบรรดาพี่น้องที่ต้องการและเฝ้ารออย่างมีความหวังเถิด


ในปี ค..1979 เพื่อขยายงานให้กว้างขึ้น ท่านก็ได้ก่อตั้งคณะ ธรรมทูตแห่งองค์พระคริสตเจ้าเพื่อพระศาสนจักรสากล สำหรับผู้ชายเพื่อร่วมเป็นอีกแรงหนึ่งที่จะร่วมกันขยายพระอาณาจักรของพระเจ้าภายใต้คำขวัญประจำครอบครัวอิเนซีเอนา(คณะต่างๆที่มีจิตตารมณ์ของท่าน)ที่ว่า เพราะพระคริสตเจ้าจะต้องทรงครองราชย์(1 โครินธ์ 15:25)

ไม่ลืมที่จะยกถวายงานเพื่อความรอดของวิญญาณของพวกเราไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า และมอบความต้องการของเราไว้บนพระหัตถ์ของพระมารดาโมเรนิตา(แม่พระแห่งกวาดาลูป)” ตลอดชีวิตของท่าน ท่านมีศีลมหาสนิทและแม่พระเป็นศูนย์กลางของชีวิต เป็นพิเศษกับแม่พระแห่งกวาดาลูป ที่ในพินัยกรรมของท่าน ท่านได้ยกให้พระนางในชื่อนี้เป็นองค์อุปถัมภ์และเจ้าของบ้านและวัดทุกหลังของคณะ นอกนี้แล้วตลอดชีวิตของท่าน เคล็ดลับในการผ่านพ้นปัญหาต่างๆมาได้คือ การวางความทุกข์ใจของท่านไว้เบื้องหน้าตู้ศีลและแม่พระ


ท่านเป็นคนสงบเสงี่ยม มีความรับผิดชอบ ร่าเริง และร้อนรนในงานแพร่ธรรม ท่านมักเดินทางไปเยี่ยมงานแพร่ธรรมในที่ต่างๆเพื่อที่จะส่งเสริมการศึกษาและมนุษยธรรมของเด็ก คนยากไร้ เพราะคณะที่คุณแม่ตั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อพวกเขาเหล่านั้นในสถานที่ที่ยากไร้ทุกมุมโลก กระแสเรียกการเป็นธรรมทูตดำรงอยู่ในตัวของดิฉันเป็นนิจ เพราะเมื่อพระเจ้าทรงกระทำให้ดิฉันรู้สึกปรารถนาจะอยู่กับพระองค์โดยสิ้นเชิง กระแสเรียกของดิฉันก็คือการเป็นธรรมทูต

และด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างขวางและเรียบง่าย ในปี ค..1967 ท่านก็ตัดสินลอดทอนความซับซ้อนของเครื่องแบบคณะลง หลังจากนั้นอีกสองปี ท่านก็ย้ายบ้านแม่ของคณะจากเม็กซิโกมายังกรุงโรม ซึ่งสร้างแล้วเสร็จและได้รับการเปิด-เสกในวันที่ 12 ธันวาคม ค..1978 ก่อนสองปีถัดมา คือในเดือนกรกฎาคม ค..1980 ท่านจึงได้ออกเดินทางไปเยี่ยมบ้านของคณะที่มีถึง 47 แห่งทั่วทุกมุมโลกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อไปเป็นพยานถึงงานของคณะผ่านการมาและคำพูดของท่าน



ในปี ค..1980 ท่านก็ถวายตนมาได้ห้าสิบปีพอดี พวกซิสเตอร์จึงได้จัดให้มีงานฉลองสุวรรณสมโภชให้ท่านที่บ้านคณะในกรุงโรมในวันที่ 9 ธันวาคม ซึ่งในโอกาสนั้นสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ก็ได้ทรงเสด็จมาร่วมแสดงความยินดีกับท่าน พระองค์ได้ทรงคำนับท่านนั่งอยู่บนรถเข็น เพราะเวลานนี้ท่านล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งและกระดูกไขสันหลังเคลื่อน ทรงจุมพิตที่หน้าผากของท่าน ฝั่งท่านเองก็รีบคว้าพระหัตถ์ของพระองค์ขึ้นมาจุมพิตความรักและภักดีดั่งที่ท่านสอนบรรดาธิดาเสมอ พระองค์ได้ตรัสกับท่านอย่างเป็นธรรมชาติว่า ท่านช่างสัตย์ซื่อยิ่งนัก ช่างเป็นสตรีที่สัตย์ซื่อยิ่ง

ท่านสิ้นใจอย่างสงบในเวลา 19.00 . ของวันที่ 22 กรกฎาคม ค..1981 ในโรม ประเทศอิตาลี ขณะอายุได้ 77 ปี ภายหลังพูดขึ้นว่า ถูกแล้วลูกรัก เราทำสำเร็จแล้ว ขอขอบพระคุณพระเจ้า ร่างของท่านถูกฝังไว้ ณ บ้านแม่ของคณะในกรุงโรม และภายหลังจากมีการดำเนินเรื่องขอแต่งตั้งท่านเป็นบุญราศี จนมีอัศจรรย์ประกอบ ในวันที่ 21 เมษายน ค..2012 สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ก็ได้สถาปนาท่านขึ้นเป็นบุญราศี โดยมีผู้แทนพระองค์คือพระคุณอังเจโล อมาโตเป็นประธาน ณ มหาวิหารแม่พระแห่งกวาดาลูป 


จากชีวิตของคุณแม่ทุกคนคงเห็นถึงอีกตัวอย่างหนึ่งของนักแพร่ธรรมที่ดีอีกแบบหนึ่งในด้านการกระตือรือร้นในงานแพร่ธรรม ความวางใจในพระเจ้าที่คุณแม่ได้แสดงออกมาตลอดชีวิตของคุณแม่และความกล้าทีจะเดินตามน้ำพระทัยของพระ อย่างไม่มีข้อขัดข้อง คุณแม่กล้าที่จะกระโดดจากหลังกำแพงที่สูงของอารามที่คุณแม่คิดว่าที่นั่นพระได้เรียกคุณแม่ไว้หลังกำแพง แต่ไม่งานของคุณแม่อยู่นอกกำแพงอาราม ดังนั้นคุณแม่จึงไล่ตามเสียงพระด้วยการกระโดดข้ามกำแพงอารามไปพร้อมความวางใจของพระไป เพื่อไล่ตามน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างเด็ดเดี่ยว คุณแม่กระโดดข้ามกำแพงไปพร้อมกับเมล็ดพันธุ์ของความเชื่อและแสงสว่าวของพระเจ้า ที่คุณแม่เตรียมมันไว้ในกระเป๋าของคุณณแม่และพร้อมเสมอที่จะหว่านเมล็ดพันธ์และมอบความสว่างนั้นแด่โลกใบนี้



ข้าแต่ท่านบุญราศีมาเรีย อิเนส เทเรซา แห่ง ศีลมหาสนิท ผุ้มีความกระตือรือร้นในงานแพร่ธรรม ช่วยวิงวอนเทอญ



ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...