วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

"มรณสักขี แห่ง กาโฮโนส" วีรบุรุษของพระคริสตเจ้า


บุญราศีมรณสักขี แห่ง กาโฮโนส
Bl. Mártires de Cajonos
ฉลองในวันที่ : 16 กันยายน

เรื่องราวต่อไปเริ่มขึ้นที่หมู่บ้านอันมีนาม ซาน ฟรานซิสโก กาโฆโนส หมู่บ้านในรัฐวาฮากา รัฐของชนเผ่าซาโปเตกา ทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก ในปี ค..1660 เมื่อเด็กชายสองคนถือกำเนิดขึ้นในปีนั้น ตามวันและเวลาที่ต่างกันในสองครอบครัว คนหนึ่งได้รับชื่อ ฮวน เบาติสตา ส่วนอีกคนที่สืบเชื้อสายผู้นำเผ่าก็ได้รับชื่อว่า ฮาซินโต เด โลส อันเคเลส ทั้งสองครอบครัวต่างอบรมเด็กทั้งสอง กระทั้งเติบโตมาเป็นหนุ่มถึงวัยแต่งงานก็ต่างได้พากันออกเหย้าออกเรือนทั้งคู่


ฮวน เบาติสตา สมรสกับ โฮเซฟา เด ลา ครูซ และมีธิดาร่วมกันหนึ่งคนชื่อ โรซา ส่วนฮาซินโตสมรสกับเปโตรนา เด โลส อันเคเลส และมีลูกด้วยกันถึงสองคนคือ ฮวน กับ นิโกลาซา และด้วยทั้งสองมีคุณสมบัติพอ ทั้งฮวนและฮาซินโตจึงได้รับหน้าที่ให้เป็น ตัวแทนเขต ซึ่งมีหน้าที่ในการสอดส่องดูแลและปกป้องความเชื่อกับการปฏิบัติตนตามหลักคุณธรรมในเมืองมิให้ด่างพร้อย รวมไปถึงการช่วยงานคุณพ่อในงานด้านนี้ โดยเฉพาะในสถานที่ห่างไกล 


ตัวแทนเขตมาจากไหน ก็ด้วยตามในฐานะวาฮากายังเป็นดินแดนแพร่ธรรมใหม่ การระมัดระวังฝูงแกะ จึงเป็นเรื่องแรกที่สำคัญมากๆ เพราะก่อนที่ธรรมทูตกลุ่มแรกจะเข้ามาการบูชาเทวรูปนับเป็นเรื่องที่แพร่หลายมากในดินแดนนี้ ดังนั้นจึงมีการตั้งตำแหน่งไล่ตั้งแต่ผู้รับใช่พระแท่น ผู้ก้าวหน้าการตัดสิน กรรมาธิการ ประธานประจำเมือง นายกธรรมนูญ และท้ายสุดก็คือตัวแทนเขตขึ้นในสามจังหวัดของเม็กซิโกตามมติของสภาประจำจังหวัดทั้งสามมาตั้งแต่ปี ค..1585 ซึ่งทั้งฮวนและฮาซินโตเมื่อได้รับตำแหน่งเป็นตัวแทนเขตแล้ว ก็ต่างร่วมกันปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นอย่างดี


กระทั้งในวันที่  14 กันยายน ค..1700 อันตรงกับวันเทิดทูนไม้กางเขน ฮวนและฮาซินโตก็ทราบข่าวว่าในเย็นวันนั้นจะมีพิธีบูชาเทวรูปที่บ้านของโฮเซ โฟลเรส ทั้งสองจึงเร่งนำข่าวนี้ไปแจ้งแก่คุณพ่อคณะโดมินิกันในทันที และภายหลังจากหารือกันแล้วทั้งหมดก็ตัดสินใจจะบุกไปขัดขวางพิธีนี้ ซึ่งเมื่อซุ่มดูจนพบว่าเป็นดังที่ทั้งสองบอก ทั้งคุณพ่อโดมินิกันและทั้งสองจึงตรงเข้าไปตำหนิคนเหล่านั้น ที่พอเห็นอย่างนั้นก็ตาลีตาเหลือกดับเทียน ก่อนจะกระโจนหนีกันไปคนละทิศละทาง เหลือทิ้งไว้ก็แต่เพียงข้าวของเครื่องบูชาในพิธี คณะจึงได้ทำการยึดข้าวของเหล่านั้นกลับไปยังอาราม จนรุ่งสางจึงนำความเรื่องนี้เข้าแจ้งแก่ทั้งอธิการคณะในวาฮากาและเจ้าพนักงานที่ดูแลเขตนั้น 



เหตุการณ์ยังคงสงบเป็นปกติไปเรื่อยๆ จนกระทั้งย้ำเที่ยงทั้งฮวนและฮาซินโตก็ได้รับข่าวที่ไม่ดีเลย ก็พวกชาวบ้านที่เมื่อคืนทั้งสองพาคุณพ่อไปทำลายพิธีนะซิ กำลังเตรียมจะตอบโต้ทั้งสองกลับ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของทั้งสอง ทั้งฮวนและฮาซินโตจึงจำต้องหลบเข้าไปซ่อนในอารามคณะโดมินิกัน ซึ่งระยะเวลาแห่งความตึงเครียดนี้ก็ดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณยี่สิบนาฬิกา ที่สุดบรรดาชาวบ้านโพกผ้าที่โกธรแค้นก็มาถึงหน้าประตูอารามพร้อมอาวุธครบมือ พวกเขาต่างประกาศก้าวเสียงดังว่าหากอารามไม่ส่งทั้งสองออกมา พวกเขาก็จะบุกเข้าไปฆ่าเสียให้หมดอาราม


แต่คุณพ่อกาสปาร์ กับคุณพ่ออาโลนโซ ก็ต่างปฏิเสธเสียงแข็ง พวกชาวบ้านเหล่านั้นจึงขู่อีกว่าจะเผาวัด พร้อมบุกเข้าไปในอาราม เพื่ออ้างสิทธิ์ของชอบธรรมของพวกเขาต่อของประกอบพิธีที่ถูกยึดมาของพวกเขา และไม่เพียงเท่านั้น พวกชาวบ้านยังขู่เพิ่มอีกว่าหากไม่ส่งมาจริงๆ พวกเขาก็จะเผาบ้านข้างๆของฮวนทุกหลัง ฟังดังนั้นเพื่อไม่ให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ต้องตายไปมากกว่านี้ ทั้งสองจึงเลือกที่จะออกมานอกอารามเพื่อน้อมรับความตาย แต่ก่อนที่จะออกมานั้น ทั้งสองก็ได้ขอแก้บาปรับศีล ซึ่งหลังจากรับศีลแล้วฮวนก็ได้กล่าวขึ้นว่า พวกข้าตายเพื่อพระบัญญัติของพระเจ้า ข้ามีจอมกษัตริย์หนึ่งเดียว ข้าไม่กลัวอะไรและไม่จำเป็นเลยที่ต้องใช้อาวุธ



และเมื่ออยู่ท่ามกลางชาวบ้านที่เกรี้ยวกราดแล้ว ก็เป็นฮวนเองที่ประกาศขึ้นว่า ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ถ้าสูจะฆ่าข้าเสียในวันรุ่ง ก็ขอให้ทำเสียตอนนี้เถิด ส่วนฮาซินโตก็ประกาศแล้วต่อหน้าคุณพ่อผู้โปรดศีลว่าเขาปรารถนาจะตายเพื่อความรักของพระเจ้า โดยไม่ต้องมีการใช้อาวุธใดๆทั้งสิ้น แต่เหมือนความต้องการของทั้งสองจะไร้ผล ทั้งสองไม่ได้ถูกฆ่าตายในทันที แต่ถูกทรมานต่างๆนานาอย่างไร้ความปราณีจากพวกชาวบ้านกลุ่มนั้น เพื่อบีบให้ทั้งสองละทิ้งความเชื่อและอนุญาตให้พวกเขาบูชาเทวรูปได้ แต่แม้จะทำร้ายทั้งสองอย่างไรๆ ทั้งสองก็ไม่เคยปริปากบ่นหรือสู้กับเลย ตรงกันข้ามทั้งสองกับประกาศเพียงว่า ถ้าศาสนาของหมู่สูเป็นของแท้ ไฉนหมู่สูไม่สร้างวัดเพื่อบูชาแทนที่จะมาแอบทำในตอนกลางคืนเพื่อหลอกลวงบรรดาคริสตชนจนๆผู้ขลาดเขลาละ


ทั้งสองถูกเฆี่ยนตีและถูกประจารที่จัตุรัสสาธารณะ คุณพ่อช็อกโกแล็ตให้สูกินละสิท่า ข้ารู้นะ เพชฌฆาตเอ่ยกับทั้งสองอย่างเย้ยหยัน แต่ก็หาได้มีคำตอบใดหลุดออกมาจากทั้งสองไม่ คงมีแต่ความเงียบเป็นดั่งคำตอบ ทั้งถูกจองจำอยู่ ณ เรือนจำท้องถิ่น กระทั้งเช้าวันที่ 16 กันยายน ทั้งสองจึงถูกพาไปยังหมู่บ้านใกล้ๆชื่อ ซาน เปโดร ที่นั่นทั้งสองถูกทรมาน ถูกคุกขังและก็ถูกขอให้ละทิ้งความเชื่อแล้วพวกเขาจะอภัยให้ต่อการกระทำของทั้งสอง เป็นอีกครั้งที่สองตอบปฏิเสธ เมื่อข้าทั้งสองได้สมัครใจรับศีลล้างบาปแล้ว ข้าทั้งสองก็ต้องติดตามศาสนาที่แท้จริงเสมอ


ได้รับคำตอบเช่นนั้นในบ่ายวันเดียวกัน ทั้งสองจึงถูกพาขึ้นไปยังเนินเข้าที่ชื่อตันกา ณ ที่นั่นทั้งสองถูกตีด้วยกระบอง ก่อนจะตามด้วยมีดพร้า จนทั้งสองถึงแก่มรณกรรมตามแบบฉบับมรณสักขี ส่วนทางฝ่ายเพชฌฆาตเอง เมื่อเห็นทั้งสองสิ้นใจลงแล้ว ก็รีบใช้มีดควักเอาหัวใจของทั้งสองออกมาโยนให้สุนัขกิน แต่สุนัขก็หาได้ใยดีโภชนานี้ไม่ หลังจากนั้นบรรดาเพชฌฆาตจึงลงมือดื่มเลือดของทั้งสองตามความเชื้อเดิม ก่อนจะฝังร่างทั้งสองอย่างลวกๆ

ทำให้นับแต่นั้นมาภูเขาแห่งนั้น ก็เป็นที่รู้จักกันในชื่อ มอนเต ฟีสกาเลส ซันโตส หลังจากนั้นจึงมีการไปขุดร่างของทั้งสองมารักษาไว้ ณ วัดวิลลา อัลตา ก่อนในปี ค..1889 พระธาตุของทั้งสองก็ถูกมอบแด่พระสังฆราชประจำสังฆมณฑลวาฮากา และถูกประดิษฐ์สถานไว้อาสนวิหารแห่งวาฮากา และแม้บางคนจะกล่าวว่าทั้งสองไม่ใช่มรณสักขี แต่คือคนขายชาติ ที่ทรยศต่อวัฒนธรรมตนเอง ในวันที่ 1 สิงหาคม ค..2002 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ก็ทรงประกาศนามทั้งสองในสารบบบุญราศีอย่างสง่าในบรรยากาศแบบแอซเท็ค




เชิญมาเถิด ทุกอย่างพร้อมแล้ว(ลูกา 14:17) เมื่อได้รับการเชื้อเชิญจากพระเจ้าให้มีส่วนในมรดกในสวรรค์ผ่านศีลล้างบาป ทั้งฮวนและฮาซินโต ก็ต่างตอบรับเสียงเชื้อเชิญนั้นด้วยความกล้าหาญ ทั้งสองได้เลือกที่จะเป็นผู้ได้รับเชิญที่ดี ไม่เหมือนผู้ได้รับเชิญทั้งสามคนที่ปรากฏในอุปมา คือ เมื่อทั้งสองต้องเลือกระหว่างพระกับชีวิตของตน ทั้งสองได้เลือกเอาพระ และได้ละทิ้งความต้องการส่วนตัว แล้วพุ่งทยานวิญญาณของตนจากกองแห่งทรัพย์ฝ่ายโลก ไปยังกองแห่งทรัพย์ฝ่ายสวรรค์ ผ่านเรื่องราวของทั้งสองและไตร่ตรองพร้อมข้อพระวาจานี้ ก็ชวนให้เราคิดว่าหลายๆครั้งเมื่อต้องเลือกระหว่างการทำกิจศรัทธาบางอย่าง อาทิ การสวดภาวนา กับงานของเรา เราได้เลือกอะไรลงไป เราเลือกที่จะสะสมทรัพย์ฝ่ายโลก หรือสะสมทรัพย์ฝ่ายสวรรค์ เวลานี้เรากำลังเป็นแบบทั้งสอง หรือเป็นแบบผู้ได้รับเชิญทั้งสาม ที่บอกปัดไม่ว่างเพื่อสาละวนกับงานของตนต่อ นี่คือคำถามอีกข้อที่เราต้องหาคำตอบด้วยตัวของเราเองต่อไป อัลเลลูยา อัลเลลูยา




ข้าแต่ท่านบุญราศีมรณสักขี แห่ง กาโฆโนส ช่วยวิงวอนเทอญ

++หมายเหตุ++

การออกเสียง J ในภาษาสเปนออกได้สองแบบคือ ฆ และ ฮ แต่ในประเทศสเปนจะออกเสียงเป็นตัว ฆ แต่หากเป็นในละตินอเมริกาจะออกเสียง ฮ อันเป็นข้อตกลงว่าหากไม่สามารถออกเสียง ฆ ได้ สามารถออกเสียงเป็น ฮ ได้เช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง


คือปัสกาของ 'การ์โลส มานูเอล' ตอนจบ

บุญราศีการ์โลส มานูเอล เซซิลิโอ โรดริเกซ ซันติอาโก Bl. Carlos Manuel Cecilio Rodríguez Santiago วันฉลอง: 13 กรกฎาคม และ 4 พฤษภาคม (ในปวยร์โต...