วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

"โรลันโด รีวี " เทวดาองค์น้อยของกาสเตลลาราโน


บุญราศีโรลันโด รีวี
Bl. Rolando Rivi
ฉลองในวันที่ : 13 เมษายน

วันนี้เป็นอีกวันที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ของสังฆมณฑลเรกจู เอมีเลีย วันที่เณรผู้หนึ่งในสังฆมณฑลได้รับเกียรติถูกยกขึ้นไปบนแท่นบูชาในฐานะบุญราศี อันเป็นกุญแจสำคัญสู่การเป็นนักบุญในลำดับต่อไป ตอนจากนี้คงได้แต่เพียงสวดภาวนาอ้อนวอนขององค์พระเจ้าให้บังเกิดอัศจรรย์ขึ้นด้วย อัศจรรย์ที่จะเปิดประตูสู่การเป็นนักบุญเยาวชนอีกคนหนึ่ง


เด็กชายผู้กำเนิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม ..1931 ใน หมู่บ้านซาน วาเลนติโน เมืองกาสเตลลาราโน จังหวัดเรกจู เอมีเลีย แคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา ประเทศอิตาลี เป็นบุตรคนกลางจากสามคนของนายโรแบร์โต รีวี กับ นางอัลเบรทินา กาโนวี หนูน้อยเติบใหญ่ขึ้นในมาในท่ามกลางความศรัทธาของบิดามารดาผู้สวดภาวนาและสวดสายประคำทุกวัน และไปมิสซาทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่อายุ 5 ปี ท่านก็ได้เริ่มช่วยมิสซา และชอบที่จะสวดภาวนาและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าในวัด


ท่านได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกในวันสมโภชพระคริสตกายาที่ 16 มิถุนายน ค..1938  หลังจากนั้นอีกสองปีในวันที่ 24 มิถุนายน ท่านก็ได้รับการโปปรดศีลกำลังโดยพระสังฆราชแห่งเรกจู เอมีเลีย ฯพณฯ เอโดอารโด เบร็ตโตนิ ซึ่งมันทำให้ท่านตระหนักถึงการเป็น ทหารกล้าของพระคริสต์วิญญาณท่านสนิทกับพระองค์ดังเพื่อนทั้งในมิสซาและชีวิตประจำวัน ท่านสารภาพบาปอาทิตย์ละครั้ง สวดสายประคำพร้อมครอบครัวหรือคนเดียว

ท่านเป็นเด็กที่มีจิตใจดีกับคนยากจนตามทาง ท่านกล่าวว่า ผู้ยากไร้ทุกคนสำหรับผมคือพระเยซูเจ้า หลายครั้งที่ท่านพยายามชวนเพื่อนตัวน้อยในหมู่บ้านไปวัดหรือเรียนคำสอนหรือเฝ้าศีล เพื่อเติบโตไปในความเชื่อและความรักต่อพระเจ้า ในฐานะนักเรียนท่านเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนที่มีความจำอันยอดเยี่ยม ทำให้ท่านจบการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาด้วยคะแนนที่ดีเยี่ยม



จะมีนักบุญเยาวชนจำนวนมากมายและหลายๆคนจะได้ชื่อว่าพระสงฆ์ โมทนาของพระคุณพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทสุดเทิดทูนและศักดิ์สิทธิ์จะได้มาจากพวกเขา นักบุญสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุส ที่ 10 นับวันความชิดสนิทสัมพันธ์ ของท่านกับพระเยซูเจ้าก็ยิ่งทวีมากขึ้น ในวัย 10 ปี ท่านก็ได้ติดต่อกับคุณพ่อมาร์โซกชินีและพระเยซูเจ้าในตู้ศีล ท่านก็สัมผัสได้ถึงกระแสเรียกจากพระเยซูเจ้า ดังนั้นในด้วยอายุ 11 ปี ท่านจึงได้ตัดสินใจจะเป็นพระสงฆ์ ผมต้องการจะเป็นพระสงฆ์ พ่อครับ แม่ครับ ผมจะเข้าบ้านเณรครับ

ดังนั้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม ค..1924 ท่านก็ได้เดินทางไปบ้านเณรที่มาโรลา ทันทีท่านก็ได้รับเสื้อหล่อ ที่นั่นท่านศึกษาเล่าเรียนด้วยความขยัน ในบ้านเณร ท่านเป็นคนมีชีวิตชีวาและรวดเร็วในทุกเกมส์ ไม่ว่าฟุตบอลหรือวอลเลย์บอล ท่านเป็นตัวอย่างแก่เพื่อนๆทุกคน ท่านเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบของเยาวชนที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม และด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะของท่าน ท่านจึงได้เป็นสมาชิกของกลุ่มนักขับ ท่านมีความสุขก่อนรับศีลมหาสนิทเสมอ ในฤดูร้อนท่านยังคงอยู่ที่บ้านเณร ร่วมมิสซาและรับศีลมหาสนิททุกๆวันด้วยความภักดี รำพึงในตอนเช้า เฝ้าศีลและสวดสายประคำในทุกๆคืน นอกจากนั้นท่านยังแพร่ธรรมในท่ามกลางสหาย สวมเสื้อหล่อด้วยความภาคภูมิ มันเป็นสัญญาว่าผมเป็นของพระเยซูเจ้า



นอกจากเป็นนักขับแล้ว ท่านยังเป็นคนเล่นออแกนในวัดอีกด้วย ซึ่งมันทำให้บิดาท่านที่เป็นนักขับรู้สึกภูมิใจที่ได้ร้องเพลงร่วมกับท่าน และมั่นใจว่าท่านจะต้องกลายเป็นพระสงฆ์อย่างแน่นอน บ่อยครั้งมักมีคนพบท่านรายล้อมไปด้วยบรรดาเพื่อนตัวน้อยที่มาฟังท่านสอน

บิดาท่านเฝ้ารอวันที่ท่านจะได้รับศีลอนุกรม แต่แล้วในฤดูร้อนปี ค..1944 บ้านเณรก็ต้องปิดเมื่อเยอรมันกรีฑาทัพมาถึงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านจึงจำต้องกลับไปอยู่ที่บ้านกระนั้นท่านก็ยังคงศึกษาต่อในฐานะเณรอย่างเงียบๆ หลังจากนั้นลัทธิฟาสซิสต์ก็ระบาดไปทั่ว  ลัทธิที่ต่อต้านศาสนา  พวกเราภาวนาขอให้ได้กลับไปบ้านเณรเร็วๆ เมื่อผมเป็นพระสงฆ์ผมจะเป็นพระธรรมทูตที่จะนำพระเยซูเจ้าไปยังผู้ที่ไม่รู้จักพระองค์ ท่านมักกล่าวในเวลานั้น



ท่านมิได้กลัวต่อภัยคุกคามใดเลย ท่ายืนยันที่จะสวมเสื้อหล่อต่อไป เมื่อท่านถูกขอให้แต่งชุดเช่นเด็กชาวบ้านทั่วไป ท่านก็ตอบอย่างหนักแน่นว่า ผมไม่สามารถถอดเสื้อหล่อของผม เพราะมันเป็นสัญญาณว่าผมเป็นของพระเจ้า กระทั้งในยามเช้าของวันที่ 13 เมษายน ค..1945  ขณะที่บิดามารดาท่านไปทำงานในทุ่ง ท่านจึงถือโอกาสเอาหนังสือเรียนไปอ่านอยู่ใกล้ๆพุ่มไม้ แต่แล้วอยู่ๆขณะที่ท่านกำลังอ่านหนังสือพวกกลุ่มต่อต้านก็เดินผ่านมาพอดี ฉับพลันความเกลียดชังก็ไหลเวียนตัวของพวกเขา หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้น มีไอ้แมงมุมดำในอนาคตนี่ เราฆ่ามันเลยดีไหม?”  “เอาเลย

ดังนั้นพวกเขาจึงเดินเข้าไปใกล้ท่านพร้อมกระชากหมวกของท่านทิ้ง และเริ่มดูถูกท่าน ก่อนลงมีฟาดท่านด้วยสายรัดขา ตบท่าน มันทำให้เด็กชายตัวเล็กๆอย่างท่านเริ่มหน้าซีดและร้องไห้ด้วยความกลัว ถัดจากนั้นพวกเขาจึงพาท่านเข้าไปในป่าของมอนชิโอ ท่านพยายามอ้อนวอนชีวิตแต่ไม่คำตอบที่ท่านคือการเตะ ท่านจึงขอเวลาซักนาทีหนึ่งเพื่อคุกเข่าลงภาวนาเพื่อบิดามารดาของท่าน หลังจากนั้นพวกเขาจึงลั่นไกปืนสองนัดไปที่หัวใจและหน้าผากอย่างไร้ความปราณี ร่างของท่านล้มลงเพื่อยืนยันความเชื่อ



ขณะเดียวกันกับที่บิดามารดาท่านพบข้อความที่จากพวกต่อต้านไม่ให้ตามหาท่าน พวกเขาจึงรอกระทั้งในตอนเย็นของวันที่ 14 เมษายน ค..1945 บิดามารดาจึงพบร่างไร้วิญญาณของท่าน ที่จบชีวิตเช่นมรณสักขีด้วยวัยเพียง 14 ปี ในสภาพร่างกายพกช้ำ ร่างของท่านได้รับการฝังไว้ชั่วคราวที่มอนชิโอ ก่อนในอีกเดือนถัดมาจึงมีการย้ายร่างของท่านกลับสู่มาตุภูมิเพื่อฝังไว้ในสุสานของหมู่บ้าน ผู้คนต่างขานามท่านว่า เทวดาองค์น้อย หลังจากนั้นในวันที่ 26 มิถุนายน ค..1997 จึงมีการย้ายร่างของท่านเข้าไปไว้ในวัดซาน วาเลนติโน  และหลังจากกระบวนการมากมายสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ก็ได้ทรงอนุมัติการเป็นพยานความเชื่อของท่าน พิธีถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม ค..2013 ที่ผ่านมานี้เอง



ไม่ว่าเราจะอยู่ในร่างกายหรือถูกเนรเทศจากร่างกายเราก็มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เป็นที่พอพระทัย ( 2 โครินธ์ 5:9)  แม้ท่านจะมีอายุที่น้อยนิดนักเมื่อเทียบกับมรณสักขีรายคน แต่ท่านก็ได้สำแดงให้เราเห็นตามพระวาจาที่ยกมา เมื่อบิดามารดาของให้ท่านเลิกใส่เสื้อหล่อท่านปฏิเสธในทันทีเพราะท่านตระหนักดีว่าเสื้อหล่อนั้นคือเครื่องหมายที่แสดงว่าท่านคือผู้รับใช้ของพระเจ้า แม้จะต้องถูกทำร้ายก็ตามท่านไม่ยอมสละความเชื่อและการเป็นข้าบริการของพระองค์อันเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าไป เช่นกันสิ่งที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัยก็คือการที่เรามอบความรักให้กับคนอื่นเหมือนที่เรารักตนเองกับรับแบกกางเขนไปด้วยใจมุ่งมั่นไปหาพระ




ข้าแต่ท่านบุญราศีโรลันโด รีวี ช่วยวิงวอนเทอญ




ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...