วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557

คุณแม่ของเด็กกำพร้า "เปาลา เอลีซาเบตตา"


นักบุญเปาลา เอลีซาเบตตา เชรีออลี
St. Paola Elisabetta Cerioli
ฉลองในวันที่ : 24 ธันวาคม

เด็กหญิงโกสตันซา เชรีออลี เกิดมาพร้อมสุขภาพที่เปราะบางติดมาด้วยจากโรคหัวใจ ที่ซอนชีโน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค..1816 ท่านเป็นลูกคนสุดท้องจากสิบหกคนในตระกูลขุนนางของนายฟรังเชสโก เชรีออลี กับ นางฟรังเชสกา โกรนีอานี ท่านถูกเลี้ยงดูอยู่ที่บ้านกระทั้งมีวัยได้ 11 ปี ครอบครัวก็ตัดสินใจส่งท่านไปเรียนที่แบร์กาโม ให้ท่านไปอยู่ท่ามกลางความเงียบเหงาร้างไร้จากครอบครัวเป็นเวลายาวนานถึงห้าปี แต่อย่างไรตอนนั้นเมล็ดพันธุ์เล็กๆก็ได้งอกเงยขึ้นเป็นต้นกล้าแห่งความวางใจในพระเจ้า ท่านพบการปลอบประโลมใจในตัวพระองค์เพียงผู้เดียว

ต่อมาเมื่อท่านในวัย 19 ปี ได้กลับบ้านแล้ว ท่านก็ถูกคลุมถุงชนกับชายวัย 59 ปีอย่างไกตาโน บูเซชกิ ซึ่งท่านก็ยอมรับข้อเสนอนี้เพราะท่านเห็นว่ามันคือน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ดังนั้นพิธีสมรสของท่านจึงถูกจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายน ค..1835 ชีวิตคู่ของท่านกินเวลาถึง 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากจากทั้งจากสามีของท่านและตัวท่านเอง บุตรสามจากสี่คนของท่านกับเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เหลือเพียง การ์โล สิ่งปลอบประโลมใจของท่านคนเดียวเท่านั้น



กระทั้งในเดือนมกราคม ค..1854 ในวัย 16 ปี บุตรชายที่รักของท่านก็ได้ล้มป่วยและจากไปพร้อมคำพูดเชิงทำนายว่า คุณแม่ครับ ไม่ต้องร้องไห้ครับ ….. พระเป็นเจ้าจะให้เด็กคนอื่นๆแก่คุณแม่เองครับ หลังจากนั้นในตอนท้ายปีในวันที่ 25 ธันวาคม ไกตาโน สามีของท่านก็ได้ถึงแก่กรรมลงเช่นเดียวกัน สำหรับท่านในตอนนี้มันยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ มันเป็นคืนมืดของท่าน แต่ขณะเดียวกันในวิญญาณคำพูดของการ์โลก็กลายเป็นดั่งแสงนำทางท่าน ให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง

ใช่ท่านต้องเป็น แม่ และให้ตนเองให้ผู้อื่นเหมือนที่ท่านทำต่อการ์โล ดังนั้นด้วยวัย 38 ปี ท่านจึงตัดสินใจที่จะก้าวไปตามทางแห่งกิจการเมตตา ท่านเริ่มที่จะไปเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ป่วย แบ่งปันข้าวของแก่คนยากจนหรือเด็กกำพร้า ผู้ที่สร้างแรงบัลดาลใจให้ท่านตัดสินเปิดบ้านของท่านสำหรับเด็กกำพร้าขึ้น พร้อมมอบทรัพย์สินทั้งหมดของท่านแก่คนยากจน จนท่านถูกบรรดาญาติๆและเพื่อนบ้านต่างพากันว่าท่านเสียใจจนเป็นบ้าไปแล้ว พวกเขาต่างพากันว่าท่านไม่รู้ว่าท่านทำอะไรลงไป แต่ตรงข้ามท่านรู้ดีว่าท่านทำอะไรทำหน้าที่ แม่ ยังไงละ



เงินจากการขายเครื่องเพชรของท่านถูกแปลงไปเป็นวัสดุสำหรับสร้างบ้านสำหรับเด็กกำพร้าขึ้น เช่นเดียวกันกับการให้ทุกสิ่งแด่คนยากจน ท่านก็ได้มอบตนเองทั้งหมดแด่พระเจ้าด้วยการถือปฏิญาณตนจะถือศีลบนการเป็นพรหมจรรย์ ในวันที่ 25 ธันวาคม ค..1856 ตามมาด้วยการถือปฏิญาณตนถือความยาจนและความนบนอบหลังจากได้รับการเห็นชอบจากคุณพ่อวิญญาณในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค..1857

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีสตรีมากมายที่เริ่มเข้ามาร่วมงานกับท่าน และผ่านการสวดภาวนาพระเป็นเจ้าก็ทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระองค์แก่ท่านให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้น คณะภคินีแห่งครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แห่งโกมอนเต จึงถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม ค..1857 คณะที่จะดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมตน เรียบง่าย ยากจนและรักการทำงานที่อย่างพบในครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แห่งนาร์ซาเร็ธ สมาชิกทุกคนต้องมุ่งมั่นที่จะเลียนแบบชีวิตทั้งภายในและภายนอกของพระเยซูเจ้า แม่พระและนักบุญยอแซฟผู้อาศัยอยู่ในบ้านแห่งพระหรรษทาน และมีพันธกิจคือการดูแลบรรดาเด็กกำพร้าและให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองมือใหม่



นับจากวันนั้นมาคุณแม่เปาลา เอลีซาเบตตา ซึ่งคือนามใหม่ของท่าน ก็ทุ่มตัวของท่านเพื่อวางรากฐานและพัฒนาคณะของท่าน กระทั้งเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค..1863 ที่ วิลลากัมปักนา คณะนักบวชชาย คณะภารดาแห่งครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ จึงถูกท่านก่อตั้งขึ้น เพื่อดูแลผู้ติดยาให้มีงานทำและแพร่ธรรมในหมู่เกษตรกร

และเนื่องจากพันธกิจของท่านมีสองแขนงท่านจึงได้ถวายทั้งหมดไว้ภายใต้การอารักษ์ของนักบุญยอแซฟ ดังนั้นบรรดาเด็กกำพร้าภายใต้การดูแลขอคณะจึงได้รับนามว่า บุตรและธิดาของนักบุญยอแซฟ หากเรามองดีๆเราจะพบว่ามีจิตวิญญาณของแม่ที่ไร้ขีดจำกัดจริงๆ ท่านเอาใจใส่การศึกษาของเด็กกำพร้า การแก้ปัญหาความยากจน ท่านเข้าใจความสำคัญของครอบครัวและความเหมาะสมซึ่งสรรค์สร้างบรรดาบุตรและธิดา ซึ่งจะสามารถรักและมอบความรู้แก่บรรดาเด็กๆของพระเจ้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา เด็กๆที่ถูกทอดทิ้งและสุญเสีย



แต่แล้วอยู่ๆในวันที่  24 ธันวาคม ค..1865 ท่านก็ได้ถึงแก่มรณกรรมอย่างกะทันหันในบ้านที่โกมอนเต ในวัย 49 ปี หลังจากนั้นอีก 115 ปี หลังจากการจากไปของท่าน สมเด็จพระสันตะปาปาปอุส ที่ 12 ก็ได้ทรงบันทึกนามท่านไว้ในสารบบบุญราศีในวันที่ 19 มีนาคม ค..1950  และเมื่อถึงรัชสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 พระองค์ก็ได้ทรงแต่งตั้งท่านขึ้นเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค..2004 

พระเจ้าจะนำเจ้าอยู่เป็นนิตย์และให้เจ้าอิ่มด้วยของดี และกระทำให้กระดูกของเจ้าแข็ง และเจ้าจะเป็นเหมือนสวนที่มีน้ำรด เหมือนน้ำพุ ที่น้ำของมันไม่ขาด(อิสยาห์ 58:11) ทำไมหญิงม่ายคนหนึ่งจึงตัดสินใจทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อทำหน้าที่ แม่ ให้บรรดาเด็กกำพร้า โดยที่ไม่เกรงกลัวอะไรที่จะต้องพบ เพราะอะไร เพราะท่านรู้ว่านี่คือน้ำพระทัยของพระ ซึ่งแน่นอนหากมันคือน้ำพระทัยของพระแล้วย่อมไม่มีอะไรที่จะขัดขวางมันได้ นอกจากใจเราที่เลือกจะทิ้งไปเพราะเห็นว่ามันยาก มันหิน บางครั้งเราหลงลืมไปว่าพระดูแลเราตลอดทางน้ำพระทัยพระองค์ ด้วยเพราะความทุกข์ ความเหนื่อยยาก ความท้อแท้ แต่ไม่จริงเลยพระอยู่กับเราเสมอตลอดทางกางเขนนี้ ทางแห่งน้ำพระทัย ขอแค่เราวางใจที่จะก้าวไปตามหนทางแห่งน้ำพระทัยพระ เราก็จะพบว่าพระอยู่ข้างๆเรานี้แหละ ตลอดทางเส้นนี้จนถึงสวรรค์



ข้าแต่ท่านนักบุญเปาลา เอลีซาเบตตา เชรีออลี ช่วยวิงวอนเทอญ

ข้อมูลอ้างอิง

ลำนำ ณ นั่งร้านของ 'มรณสักขีแห่งกมเปียญ' ตอนแรก

  นักบุญมรณสักขีแห่งกมเปียญ St. Martyrs of Compiègne วันฉลอง: 17 กรกฎาคม ‘เลาดาเต โดมินัม โอมเนส เซนเทส’ (นานาชาติเอ๋ย จงสรรเสริญพระยาห์เวห์...