วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

"เจลตรูเด" ศีลมหาสนิทคือศูนย์กลางของชีวิต


นักบุญเจลตรูเด โกเมนโซลี
St. Geltrude Comensoli
ฉลองในวันที่ : 18 กุมภาพันธ์

หมู่บ้านเบียนโน  เมืองเบรชชา แคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี วันที่ 18 มกราคม ค..1847  ในครอบครัวของนายการ์โล ช่างเหล็ก กับ นางงอันนา มารีอา มิเลซี  เด็กสาวตัวน้อยได้ถือกำเนิดและได้รับศีลล้างบาปในวันเดียวกันด้วยนาม กาเตรีนา  เป็นลูกคนที่ห้าจากสิบคนของครอบครัว

ท่านเจริญวัยขึ้นมาท่ามกลางครอบครัวที่เงียบสงบ พอประมาณและศรัทธา มารดาท่านพาลูกๆไปมิสซาทุกวัน  ตั้งแต่เยาว์วัยพระเจ้าได้ทรงปลูกฝังความจำเป็นของการเป็นชิดสนิทสัมพันธ์กับพระองค์ในดวงใจน้อยๆอันบริสุทธิ์ บ่อยครั้งท่านถูกดึงจากความต้องการเพื่อสวดภาวนาและรำพึงอย่างล้ำลึก จนมีคนถามท่านว่าทำอะไร ท่านตอบเพียงตอบสั้นๆว่า หนูกำลังคิดค่ะ

กระทั้งอายุได้ 7 ปี ท่านก็ไม่สามารถต้านทานคำเชื้อเชิญของพระเยซูเจ้าได้อีกต่อไป ดังนั้นในวันหนึ่งในช่วงเช้ามืด ท่านได้ออกจากบ้านไปพร้อมผ้าคลุมไหล่สีดำของมารดา มุ่งหน้าสู่วัดเซนต์ แมรี่ และหยุดยืนอยู่ที่ราวบันได ก่อนได้รับ
ศีลมหาสนิทครั้งแรกอย่างลับๆ หลังจากนั้นในวัดตอนเช้าเบื้องหน้าศีลมหาสนิท ท่านได้เผยสำแดงความปรารถนาของท่าน พระองค์จะทรงเป็นเจ้าบ่าวของหนู หนูสาบานกับพระองค์ล้านครั้งหนูจะเป็นของพระองค์ตลอดไป

ท่านชอบที่จะใช้เวลากับพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท ท่านต้องการนำพระองค์บนภูเขาสูงเพื่อให้ทุกคนสามารถมองเห็นและรักพระองค์ คติที่เป็นแบบแผนการดำเนินชีวิตของท่านคือ พระเยซูเจ้า ลูกรักพระองค์และทำให้คนอื่นรักพระองค์เช่นกัน

ต่อมาในปี ค..1862 ด้วยอายุราวๆ 15 ปี ท่านได้เข้าอารามคณะคณะเมตตาธรรมแห่งมิลานและกุมารีมารีอา ของนักบุญบาร์โทโลเมอา คาร์ปิตาเนียวและนักบุญวินเซนซา เจโรซาร์ ที่โลเวเร เมืองเบรชชา ณ จุดนี้ทุกคนต่างคิดว่าท่านจะต้องได้บวชแน่ๆ แต่พระเจ้าทรงมีแผนการเตรียมไว้สำหรับท่านแล้ว เพราะในขณะเป็นโปสตุลันต์ ท่านก็ล้มป่วยหนักและถูกให้ออกจากคณะ

ท่านจำต้องหอบข้าวของกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน กระทั้งท่านหายดีแล้ว ค..1867 ในวัย 20 ปี ท่านก็ได้เข้าคณะอุร์สุลิน คณะฆราวาทของเบรชชาที่ก่อตั้งโดยนักบุญอัญจลา เมริชี เพื่อช่วยหญิงสาวหลายๆคน  และได้รับชุด
คณะในวันที่ 29 สิงหาคม ก่อนปฏิญาณตนในวันที่ 23 ธันวาคม ปีเดียวกัน หลังจากนั้นท่านก็ได้รับตำแหน่งเป็นรองนวกจารย์ของกลุ่มเบียนโน  ทำให้ท่านได้มีโอกาสทำงานด้านการศึกษาของเยาวชน ซึ่งกลายเป็นประสบการณ์สำคัญที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคต

เพราะปัญหาด้านการเงินของครอบครัวท่านในอายุ 22 ปีก็ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านของคุณพ่อจูวานี บัตติสตา โรตา และหลังจากนั้นก็กับคุณหญิงเฟ วิตาลี ต่อจากนั้นในช่วงเทศกาลพระคริสคตสมภพ ปี ค..1876 ท่านก็ได้ยืนยันถึงการอุทิศตนของท่านต่อพระเยซูเจ้าอีกครั้งและได้เขียนความต้องการในการดำเนินชีวิต ซึ่งท่านยังคงยึดมั่นเสมอมิได้ขาด ท่านเริ่มงานแพร่ธรรมเรื่องศีลมหาสนิทของท่านกับกลุ่มเยาวชนหญิง และส่งเสริมขบวนแห่ศีลมหาสนิท เหตุนี้กลุ่มเพื่อส่งเสริมความเคารพต่อพระหฤทัยจึงถือกำเนิดขึ้น ซึ่งการอุทิศตนนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตฝ่ายจิตของท่าน

จนกระทั้งวันสมโภชพระคริสต์วรกาย ค..1878 คุณพ่อวิญญาณก็อนุญาตให้ท่านปฏิญาณตนถือพรหมจรรย์ได้ ดังนั้นท่านจึงได้ทำมันในตอนเช้าเบื้องหน้าศีลมหาสนิท และโดยไม่ต้องละเลยหน้าที่ในฐานะคนรับใช้ ท่านก็ตัดสินใจที่จะสอนบรรดาเด็กๆในซาน เจรวาซีโอ แบร์กาโม เพื่อนำทางพวกเขาไปสู่ชีวิตสัตย์ซื่อของคริสตชนและการอยู่ร่วมกัน

และผ่านการสวดภาวนา การพลีกรรมอย่างขยันขันแข็ง การปฏิบัติกิจเมตตาและชีวิตภายในที่เข้มข้น ท่านก็พร้อมที่จะเดินตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ยิ่งเมื่อไม่ต้องห่วงเรื่องทางบ้านอีกต่อไป เพราะบิดามารดาท่านได้สิ้นใจไปแล้ว ท่านก็เริ่มหนทางที่จะบรรลุถึงอุดมคติเรื่องศีลมหาสนิทของท่าน  ท่านเปิดใจของท่านต่อพระคุณเจ้าสเปรันซา พระสังฆราช
แห่งแบร์กาโม ซึ่งในเวลานั้นมาเป็นแขกของคุณหญิงเฟ วิตาลี เมื่อทันทีที่คุณพ่อได้ฟัง คุณพ่อก็ได้สนับสนุนท่านและยืนยันว่ามันคือน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าจริงๆ

หลังจากนั้นในฤดูหนาวปี ค..1880 ในฐานะแม่บ้านท่านก็ได้มีโอกาสติดตามคุณหญิงเฟ วิตาลี ไปกรุงโรม และมีโอกาสได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 13 ท่านจึงได้เล่าถึงความตั้งใจของท่านให้พระองค์ฟัง เรื่องคณะที่จะถูกตั้งขึ้นเพื่ออุทิศตนต่อความเคารพแด่ศีลมหาสนิท เมื่อสดับดังนั้นพระองค์ก็ทรงแนะให้ท่านทำงานด้านกาอบรมของเยาวชนหญิงของคนงานด้วยซึ่งเป็นการชี้ทางให้ท่าน

แน่นอนว่ามันคือน้ำพระทัยของพระแน่นอน เพราะ หลังจากนั้นไม่นานเมื่อท่านได้มีโอกาสไปที่วัดนักบุญอเล็กซานโด ที่ โคโลนนา ท่านก็พบกับบุญราศีคุณพ่อฟรานเชสโก สปีเนลลี ผู้เต็มไปด้วยความร้อนรน และกำลังมองหาหญิงสาวที่จะร่วมกับเขาในบ้านแห่งพระญาณสอดส่อง โดยบังเอิญ  ดังนั้นท่านจึงตัดสินใจร่วมงานกับคุณพ่อที่เล่าให้ท่านฟัง และหลังจากตกลงกันอย่างลงตัวแล้วว่าคณะใหม่จะเป็นอย่างไร เรื่องคณะใหม่จึงถูกเสนอให้พระคุณเจ้ากามิลโล กวินดานิ พระสังฆราชแห่งแบร์กาโม ซึ่งได้อนุมัติและสนับสนุนคณะอย่างเต็มที่ให้ท่านและคุณพ่อทำงานร่วมกัน

ดังนั้นในวันที่ 15 ธันวาคม ค..1882 ท่านและสตรีอีกสองคนจึงได้เริ่ม คณะภคินีแห่งศีลมหาสนิทแห่งแบร์กาโม อย่างเป็นทางการ ด้วยการอวยพรศีลมหาสนิท สองปีจากนั้นในวันเดียวกันท่านจึงได้รับผ้าคลุม พร้อมนามใหม่ว่า ซิสเตอร์มารีอา เจล์ตรูเด แห่ง ศีลมหาสนิท  พร้อมดำเนินงานด้านการอบรมเยาวชนหญิง แต่แล้วก็ในปี ค..1889 พายุใหญ่ก็ซาซัดเข้ามายังคณะท่านอีกครั้งเมื่อคณะประสพปัญหาด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรงชนิดที่ว่าคณะอาจต้องยุบกันเลยทีเดียว

ท่านต้องออกจากแบร์กาโม แต่จากคำแนะนำของพระคุณเจ้ากามิลโล ท่านก็ได้ย้ายไปหลบภัยบ้านที่โลดี ในแคว้นลอม
บาร์ดี ซึ่งที่นั่นพระคุณเจ้าโรตา พระสังฆราชแห่งโลดีก็ให้การต้อนรับท่านเป็นยังดี และมอบบ้านคณะให้ในลาวัจนา ดิ โกมาซโซ วึ่งกลายเป็นบ้านแม่ของคณะชั่วคราว กระทั้งพระสังฆราชแห่งโลดีได้อนุมัติคณะของท่านให้เป็นที่ยอมรับในวันที่ กันยายน ค..1891  เหตุนี้ในวันที่  28 มีนาคม ค..1892 ท่านจึงกลับสู่แบร์กาโม

หลังจากผ่านการทดลองนี้ แม้จะมีสุขภาพที่ไม่ดีนัก ท่านก็ไม่หยุดที่จะฝึกบรรดาซิสเตอร์เพื่อนำสู่จิตวิญญาณแห่งศีลมหาสนิท และทำทุกสิ่งที่ท่านทำได้เพื่อให้คณะเติบโตและพัฒนา ท่านเป็นวิญญาณแห่งการสวดภาวนา การพลีกรรม การเสียสละ การนบนอบ การถ่อมตน และกิจการเมตตาต่อผู้ยากไร้ คำกำฉับสุดท้ายของท่านคือ จงรักษากฎความเงียบ การเสียสละ ความยากจน ความนบนอบไว้ หลังจากนั้นท่านจึงมองตู้ศีลผ่านทางหน้าต่างบานเล็กๆในห้องของท่าน เพื่อให้ได้เห็นพระแท่น ความเคารพจะคงอยู่อีกต่อไหมหนอ ท่านถามและหลังจากได้รับคำตอบแล้ว ท่านจึงกล่าวขอบคุณ พลางคลี่ยิ้มและปิดตาลง พร้อมคืนวิญญาณแด่พระเป็นเจ้าด้วยอายุ 56 ปี

ท่านสิ้นใจอย่างสงบในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค..1903 ก่อนจะได้เห็นคณะได้รับการอนุมัติจากสมเด็จพระสันตะปาปาเพียงสามปี แน่นอนต้องมีการดำเนินเรื่องท่านเพื่อการเป็นนักบุญ จนในรัชสมัยพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 พระองค์ทรงสถาปนาท่านเป็นบุญราศี ในวันที่ 1 ตุลาคม ค..1989 และหลังจากนั้นอีก 20 ปี นามท่านก็จึงได้รับการบันทึกไว้ในสารบบนักบุญอย่างสง่าในฐานะซิสเตอร์ผู้ก่อตั้งคณะที่มีศูนย์กลางชีวิตคือศีลมหาสนิทและมีพันธกิจในการให้การอบรมเยาวชน ณ ที่ลานมหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม เมื่อวันที่ 26 เมษายน ค..2009 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16

จงดำเนินชีวิตในความจริงด้วยความรัก เจริญเติบโตขึ้นจงบรรลุความสมบูรณ์ในพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นพระเศียร(เอเฟซัส 4:15) ชีวิตของท่านเป็นแบบอย่างของการมีพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางชีวิต ซึ่งเป็นชี
วิตของคริสตชน ถูกแล้วเราต้องมีศีลมหาสนิทเป็นศูนย์กลางของชีวิต เพราะศีลมหาสนิทคือพระเยซูเจ้า เราคริสตชนต้องดำเนินชีวิตด้วยความรักทั้งในพระผู้สถิตในศีลมหาสถิต รักในเพื่อนพี่น้อง เราต้องท่องเสมอว่า เราต้องครบครัน เราครบครันครบครันด้วยการรักทุกคน รักพระ ขอให้ทุกคนสำเร็จในความครบครันตามสไตล์ของทุกคน พระอวยพร




ข้าแต่ท่านนักบุญเจลตรูเด โกเมนโซลีง ช่วยวิงวอนเทอญ

ข้อมูลอ้างอิง

'เบร์นาร์โด ฟรานซิสโก' ให้ชีวิตนี้เป็นสะพานนำรักพระองค์ไป ตอนจบ

บุญราศีเบร์นาร์โด ฟรานซิสโก เด โอโยส เด เซญา Bl. Bernardo Francisco de Hoyos de Seña วันฉลอง: 29 พฤษจิกายน [ย้อนกลับไปอ่าน  “‘เบร์นาร์โด ฟรา...